ปลัดกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ตามที่เกิดเหตุแรงงานไทยเสียชีวิตบริเวณใกล้ฉนวนกาซาจากระเบิดของปืนครกนั้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งศพของแรงงานกลับมายังประเทศไทย โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ทั้งนี้ แรงงานที่เสียชีวิตจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคมและกฎหมายเกี่ยวข้องกับผู้ที่ประสบเคราะห์กรรมจากภัยสงครามเฉกเช่นเดียวกับคนอิสราเอล ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ กำลังติดตามข้อมูลและจะแจ้งให้กับญาติของแรงงานไทยที่เสียชีวิตได้ทราบต่อไป
นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประสานให้บริษัทนายจ้างและทางการอิสราเอลในการแจ้งให้แรงงานไทยกว่า ๔,๐๐๐ คนที่ทำงานบริเวณนิคมเกษตรกรรมที่อยู่ใกล้ฉนวนกาซาหยุดการทำงาน และเตรียมอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยในรัศมี ๑๐ กิโลเมตรมายังที่ปลอดภัย รวมทั้งแจ้งผ่านเครือข่ายชุมชนคนไทยและแรงงานไทยในอิสราเอลให้ติดตามข่าวสารและคอยระมัดระวังอยู่ตลอด
ในส่วนของประเทศลิเบียนั้น ขณะนี้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงตริโปลี ได้ประสานกับแรงงานไทยในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ซึ่งแรงงานไทยทั้งหมด ๑,๔๕๐ คนยังปลอดภัยดี ซึ่งขณะนี้สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รวบรวมรายชื่อแรงงานไทยที่ต้องการเดินทางกลับประเทศไทยโดยสมัครใจ ซึ่งจะมีการเตรียมการจัดส่งแรงงานกลับประเทศไทยต่อไป โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ มีแผนการอพยพเตรียมไว้แล้ว โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของแรงงานไทยและสถานการณ์ในพื้นที่เป็นสำคัญ
--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--