รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่าหัว หน้า คสช. และปลัดกระทรวงการต่างประเทศให้ความสำคัญในการช่วยเหลือคนไทยในลิเบียอย่าง เร่งด่วนจึงได้เรียกประชุมในวันนี้ ซึ่งที่ประชุมมีมติให้เริ่มการช่วยเหลือคนไทยจำนวน ๑,๕๐๐ คน ออกจากลิเบียเป็นการด่วน เนื่องจากจากการประเมินของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงตริโปลีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่าสถานการณ์ทวีความรุนแรงมากขึ้นและ มีความสุ่มเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของประชาชนเป็นจำนวนมากและอาจจะยืดเยื้ออีก เป็นเวลานาน ดังนั้น จึงจะอพยพคนไทยโดยจะแบ่งทะยอยอพยพเป็น ๓ กลุ่มคือ กลุ่มแรก เป็นกลุ่มที่มีเสี่ยงสูงที่สุดได้แก่นักเรียนไทยและคนไทยในตริโปลี จำนวน ๔๐ คน ซึ่งจะเดินทางไปที่เมือง Djerba ของประเทศตูนีเซีย ห่างจากกรุงตริโปลีประมาณ ๑๕๐ กิโลเมตร ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ ๒ ชั่วโมง กลุ่มที่สอง มีจำนวน ๗๐ คน อาศัยอยู่ในบริเวณเมืองอัลเบด้าใกล้เมืองเบงกาซี ทางตะวันออกของลิเบีย โดยจะเดินทางผ่านเข้าไปยังประเทศตูนีเซียเพื่ออพยพกลับประเทศไทย เนื่องจากเส้นทางทางบกที่ใช้เดินทางผ่านไปประเทศอียิปต์ ได้ถูกปิดลงแล้ว ส่วนกลุ่มที่สาม คือคนไทย ที่เหลืออีกประมาณ ๑,๔๐๐ คนที่อาศัยกระจายอยู่ตามเมืองต่างๆ จะทยอยอพยพกลับประเทศไทยตามความจำเป็นและลำดับการเสี่ยงภัย
ทางการไทย จะส่งเจ้าหน้าที่ผสมสามฝ่ายจากกรุงเทพฯ เข้าไปช่วยเหลือคนไทยในลิเบียที่เมือง Djerba โดยเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ ๔ คน เจ้าหน้าที่กรมการจัดหางาน ๒ คน นายแพทย์จากกองทัพไทย ๒ คน และเจ้าหน้าที่ประสานงานของกระทรวงการต่างประเทศอีก ๒ คนที่กรุงตูนิส รวมเจ้าหน้าที่ทั้งสิ้น ๑๐ คน ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานกับรัฐบาลของประเทศตูนีเซียในการผ่าน แดนและการตั้งศูนย์อพยพคนไทยส่วนหน้าที่เมือง Djerba แล้ว โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ไทยไปตูนีเซียภายใน ๔๘ ชั่วโมง นอกจากนี้ จะตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในลิเบียที่กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา โดยจะเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่เวลา ๙.๐๐ น. ของวันอังคารที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เป็นต้นไป ทั้งนี้จะเปิดหมายเลขโทรศัพท์กลางของศูนย์เพื่อให้ญาติของแรงงานไทยสามารถ ใช้ติดต่อสอบถามข้อมูล ความคืบหน้า แจ้งความห่วงใยต่างๆ เพื่อประสานกับสถานเอกอัครราชทูตไทยที่กรุงตริโปลีในวันดังกล่าว
--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--