รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศขอบคุณที่จีนที่แสดงความเข้าใจต่อสถานการณ์การเมืองของไทย และชี้แจงพัฒนาการทางการเมืองของไทย การเดินหน้าการปฏิรูปประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามโรดแมป ๓ ขั้นตอน และสร้างความเชื่อมั่นถึงการดำเนินการของ คสช. ในการเสริมสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งเอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว
ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับสูง โดยจีนได้เชิญนายกรัฐมนตรีของไทยเยือนจีนอย่างเป็นทางการ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการหารือเรื่องกำหนดการ ส่วนไทยได้เชิญนายกรัฐมนตรีจีนเยือนไทยอย่างเป็นทางการเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดโครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Summit-GMS) ระหว่างวันที่ ๑๙ – ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๗
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศย้ำความสำคัญของการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจกับจีน โดยร่วมมือกันส่งเสริมความเชื่อมโยงและอำนวยความสะดวกทางการค้าและการขนส่งระหว่างจีนกับไทยและภูมิภาค การส่งเสริมการเชื่อมโยงในภูมิภาค ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการเสริมสร้างเสถียรภาพ ความมั่งคั่งและความมั่นคงในภูมิภาค โดยเห็นควรให้ความสำคัญกับการปรับปรุงเครือข่ายคมนาคมภายใต้การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทาง R8 และ R12 รวมทั้งเส้นทาง R3A ซึ่งเป็นเส้นทางเศรษฐกิจที่สำคัญในการเชื่อมโยงไทยกับมณฑลทางตอนใต้ของจีน การอำนวยความสะดวกด้านกฎระเบียบด้านการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารข้ามแดน และการพัฒนาคุณภาพด้านการสาธารณสุขและการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแนวพื้นที่ชายแดน
ทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่า ความสัมพันธ์และการเป็นหุ้นส่วนไทย - จีน จะเป็นประโยชน์ต่อสองประเทศและต่อภูมิภาคโดยรวม เนื่องในโอกาสครบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน ครบ ๔๐ ปี ในปี ๒๕๕๘ ทั้งสองฝ่ายจะจัดตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างสองประเทศ เพื่อหารือถึงความร่วมมือในการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลอง
--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--