การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้นำเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมความร่วมมืออาเซียน – สาธารณรัฐเกาหลี ในอนาคต ตลอดจนประเด็นในภูมิภาคและระหว่างประเทศที่สำคัญ เช่น ภัยคุกคามรูปแบบใหม่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการจัดการภัยพิบัติ เป็นต้น โดยที่ประชุมฯ จะรับรองแถลงการณ์ร่วมของการประชุมสุดยอดอาเซียน – สาธารณรัฐเกาหลี ในโอกาสครบรอบ ๒๕ ปีความสัมพันธ์ว่าด้วยวิสัยทัศน์ของหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างอาเซียน – สาธารณรัฐเกาหลี ภายใต้กรอบแนวคิด “สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง และแบ่งปันความสุข”
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับเชิญเป็นผู้บรรยายพิเศษ (Special Speaker) ในการประชุมสุดยอดภาคธุรกิจอาเซียน – สาธารณรัฐเกาหลี (ASEAN – Republic of Korea CEO Summit) ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมคู่ขนาน ในวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ โดยนายกรัฐมนตรีจะแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับสถานการณ์และอนาคตของเศรษฐกิจโลก และบทบาทสำคัญของภูมิภาคเอเชียในการขับเคลื่อนความร่วมมือทางเศรษฐกิจ รวมทั้งการเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายและมาตรการด้านเศรษฐกิจของไทย
ความสัมพันธ์อาเซียน – สาธารณรัฐเกาหลีเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี ๒๕๓๒ และได้พัฒนาไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) อย่างรอบด้านเมื่อปี ๒๕๕๓ ทั้งนี้ ในปี ๒๕๕๖ อาเซียนเป็นคู่ค้าอันดับ ๒ ของสาธารณรัฐเกาหลี รองจากจีน มีมูลค่าการค้าประมาณ ๑๓๕,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการลงทุนจากสาธารณรัฐเกาหลีสูงเป็นอันดับ ๓ ในอาเซียน คิดเป็นมูลค่าประมาณ ๓,๘๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีชาวเกาหลีใต้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในอาเซียน ๖.๕ ล้านคนในปีที่ผ่านมา โดยอาเซียนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดของชาวเกาหลีใต้ ทั้งนี้ อาเซียนและสาธารณรัฐเกาหลีได้ตั้งเป้าหมายมูลค่าการค้าระหว่างกันที่ ๑๕๐,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี ๒๕๕๘ และ ๒๐๐,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี ๒๕๖๓
--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--