นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้ว่า เพื่อเป็นการรำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้สูญหายจากเหตุการณ์ในประเทศในบริเวณมหาสมุทรอินเดีย นอกจากนี้เป็นการสดุดีและขอบคุณบุคคลและหน่วยงานต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งเป็นการเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบเตือนภัยและการเตรียมความพร้อมของไทยในการป้องกันสาธารณภัยในอนาคต นายกรัฐมนตรีได้ชี้ว่า ปัจจุบันโลกต้องเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงมากขึ้น และไม่สามารถควบคุมได้ จึงจำเป็นต้องเรียนรู้ถึงวิธีการปฏิบัติตนเมื่ออยู่ในเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เพื่อลดความสูญเสียที่เกิดจากภัยพิบัติ และถือเป็นเรื่องสำคัญที่อยู่ใกล้ตัวทุกคน เหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อน ได้คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ หลายครอบครัวต้องสูญเสียและพลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รัก บ้านเรือนและชุมชนถูกทำลายเสียหาย แต่ในช่วงเวลาเลวร้ายดังกล่าว ก็ได้ประจักษ์ถึงการช่วยเหลือกันของเพื่อนมนุษย์ผ่านช่องทางต่างๆ ที่หลั่งไหลมาจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งการช่วยเหลือเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายและการฟื้นฟูชุมชน อาสาสมัครจำนวนมาก องค์กรสาธารณกุศลต่างๆ ทั้งจากทั่วทุกภูมิภาคของไทยและจากนานาชาติได้เดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมทั้งการบริจาคสิ่งของ เงินทอง เพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์ให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณในความปรารถนาดี และน้ำใจของเพื่อนมนุษย์จากทุกมุมโลกที่ช่วยกันแบ่งปันให้แก่ผู้ประสบภัย และช่วยกันฟื้นฟูชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์สึนามิ จนบรรยากาศกลับมาปกติสุขอีกครั้ง และโอกาสนี้ ขอแสดงความรำลึกถึงผู้เสียชีวิตทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ การสูญเสียครั้งนี้ย้ำเตือนและเป็นบทเรียนให้ทุกคนตระหนักและตื่นตัวเพื่อเรียนรู้ถึงการรับมือกับภัยธรรมชาติ ในการป้องกันตนเองและลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนการพัฒนาระบบเตือนภัยและการบรรเทาสาธารณภัยให้มีประสิทธิภาพและทันสมัยและมีการเชื่อมโยงกันในภูมิภาค ซึ่งมีผลสำคัญต่อการเสริมสร้างความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยของชุมชน และความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว และได้กล่าวทิ้งท้ายโดยให้กำลังใจให้แก่ผู้ประสบภัยและครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกคน รวมทั้งอวยพรขอให้มีความเข้มแข็ง มีกำลังกาย กำลังใจและมีความสุขในการดำเนินชีวิต
การจัดงานรำลึกครั้งนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สภากาชาดไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยมีผู้เข้าร่วมงานฯ กว่า ๑,๓๐๐ คน ประกอบด้วย ประชาชนชาวไทยและต่างประเทศ ข้าราชการระดับสูง คณะทูตานุทูต ผู้แทนระดับสูงจากประเทศที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๗ และผู้ที่ประสบเหตุจากเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิโดยตรง อาทิ นาง Margareta Washlstrom ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติด้านการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ นาง Valerie Amos รองเลขาธิการสหประชาชาติและ ผู้ประสานงานด้านมนุษยธรรมและ นางสาว Petra Nemcova อดีตนางแบบระดับโลกชื่อดังซึ่งเป็นผู้ประสบภัยและผู้สูญเสียจากเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๗ และเป็นผู้ก่อตั้งและประธานกองทุน Happy Heart Fund ซึ่งมีเป้าหมายในการฟื้นฟูโรงเรียนสำหรับเด็กเล็กที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ
นอกจากการจัดพิธีรำลึกแล้ว หน่วยงานราชการไทยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่กองบัญชาการกองทัพไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สภากาชาดไทย สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน ได้จัดนิทรรศการเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันภัยและลดความเสี่ยงของภัยพิบัติ รวมทั้งมีการแสดงการสาธิตการเตรียมการ การให้ความช่วยเหลือและการจัดการเมื่อมีเหตุการณ์ภัยพิบัติประเภทต่างๆ อีกด้วย ในการจัดงานครั้งนี้ ยังได้มีการประพันธ์เพลงรำลึกขึ้น โดยนายจักรกฤษณ์ ศรีวลี เอกอัครราชทูตประจำกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แต่งคำร้องและทำนอง ชื่อว่าเพลง “Hold me close” หรือ “กอดฉันไว้” ตามชื่อของประติมากรรมที่ออกแบบโดยนางหลุยส์ บูร์ชัวส์ นักประติมากรรมชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งได้ถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของงานครั้งนี้
--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--