ในการประชุมดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ความสัมพันธ์ของสองประเทศดำเนินมาอย่างใกล้ชิดและราบรื่นตลอดระยะเวลาเกือบ ๖๐ ปี และเห็นควรให้ยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ต่อกัน ทั้งนี้ ฝ่ายตุรกีแจ้งว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตุรกีมีแผนจะเดินทางมาเยือนประเทศในภูมิภาคอาเซียนรวมทั้งประเทศไทยในเดือนมีนาคมนี้
ในด้านเศรษฐกิจ ไทยและตุรกีมีเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้ถึง ๒,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี ๒๕๖๑ และจะเร่งผลักดันให้มีการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย - ตุรกีภายในครึ่งแรกของปีนี้ ตลอดจนจะจัดประชุมกลไกความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ หรือ Joint Economic and Technical Cooperation (JEC) ครั้งที่ ๔ ในช่วงปลายปี ๒๕๕๘ ณ กรุงอังการา เพื่อขับเคลื่อนกลไกความร่วมมือต่าง ๆ และหาแนวทางในการขจัดอุปสรรคทางการค้าและผลักดันความร่วมมือระหว่างกันในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ อาทิ กลุ่ม SMEs กลุ่มก่อสร้าง อาหารฮาลาล เป็นต้น
นอกจากนี้ ไทยและตุรกียังได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคของตนและหารือถึงความร่วมมือในด้านอื่น ๆ อาทิ ความร่วมมือด้านการศึกษา การแลกเสียงสนับสนุนในเวทีระหว่างประเทศ ตลอดจนการจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ ๖๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองในปี ๒๕๖๑ ในโอกาสนี้ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศยังได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่นายเออซิน เออชิน (Ersin Er?in) ด้วย ทั้งนี้ ฝ่ายตุรกีจะเป็นเจ้าภาพการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสฯ ครั้งที่ ๔ ในปี 2559
ตุรกีเป็นประเทศที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ต่อไทยในฐานะที่เป็นประเทศมุสลิมสายกลางขนาดใหญ่ มีประชากรกว่า 75 ล้านคน และสามารถเป็นประตูสำหรับไทยสู่ตลาดเอเชียกลาง บอลข่าน ตะวันออกกลาง และแอฟริกา นอกจากนี้ ยังมีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง โดยมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางไปเที่ยวปีละกว่า 30 ล้านคน จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการด้านโรงแรม ร้านอาหาร และสินค้าฮาลาลของไทยที่จะเข้าไปลงทุน
--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--