นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กองทัพเรือทำการตรวจสอบและหากพบเรือดังกล่าวก็จะให้ความช่วยเหลือตามเหตุผลด้านมนุษยธรรมหากกลุ่มผู้โยกย้ายถิ่นฐานประสงค์เดินทางเข้าประเทศไทย โดยจะต้องปฏิบัติตามกระบวนการและกฎหมายผู้หลบหนีเข้าเมืองของไทย แต่ได้รับแจ้งจากกลุ่มผู้โยกย้ายถิ่นฐานบนเรือดังกล่าวว่า ไม่ประสงค์ที่จะเข้าประเทศไทย โดยเรือลำนี้ถูกกระแสน้ำพัดมาอยู่ในบริเวณนี้ ทั้งนี้ กลุ่มผู้โยกย้ายถิ่นฐานได้ขอรับการสนับสนุนอาหาร น้ำ และน้ำมัน ซึ่งไทยได้ให้ความช่วยเหลือตามเหตุผลด้านมนุษยธรรม
ทั้งนี้ โดยที่ปัญหาผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติทางทะเลเป็นประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อนานาประเทศ และประชาคมโลกควรร่วมกันแสวงหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา รัฐบาลไทยจึงมีกำหนดจัดการประชุมสมัยพิเศษว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย ในวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ที่กรุงเทพฯ เพื่อเรียกร้องให้ประเทศในภูมิภาคร่วมมือกันรับมือกับการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติทางทะเล โดยเฉพาะในอ่าวเบงกอล ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยจะเชิญเจ้าหน้าที่อาวุโสจากประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ๑๕ ประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม และบังกลาเทศ รวมทั้งประเทศผู้สังเกตการณ์ อาทิ สหรัฐฯ ตลอดจนผู้แทนจากองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) และสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) เข้าร่วมประชุม
--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--