กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส MERS-CoV ในสาธารณรัฐเกาหลีว่า ศูนย์บัญชาการวางแผนและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส MERS สาธารณรัฐเกาหลี ประกาศเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๘ ว่า มีผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้นอีก ๘ ราย และเสียชีวิตเพิ่มอีก ๑ ราย ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด ๙๕ ราย และเสียชีวิต ๗ ราย ในสาธารณรัฐเกาหลี โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด และได้แจ้งเตือนคนไทยในพื้นที่ให้เพิ่มความระมัดระวังและปฏิบัติตนให้เหมาะสม
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศขอแจ้งให้คนไทยที่จะเดินทางไปสาธารณรัฐเกาหลีติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส MERS-CoV อย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตนตามคำแนะนำของทั้งกระทรวงสาธารณสุขของไทยและสาธารณรัฐเกาหลี
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศยังได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด ด้วยว่า รัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้เตรียมความพร้อมในการป้องกันโรคระบาดต่างๆ ในช่วงพิธีฮัจย์ ระหว่างเดือนสิงหาคม – ตุลาคม ๒๕๕๘ โดยได้เตรียมวางระบบในการเชื่อมโยงข้อมูลและได้เตรียมบุคลากรด้านสาธารณสุขสำหรับปฏิบัติงานเพิ่มเติมในช่วงดังกล่าว โดยกระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียรายงานว่า ตั้งแต่ปี ๒๕๕๕ จนถึงวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๘ มีผู้ติดเชื้อทั้งหมด ๑๐๒๗ คน และเสียชีวิต ๔๕๐ ราย ในซาอุดีอาระเบีย โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาดได้แจ้งให้คนไทยในพื้นที่ทราบเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดและคำแนะนำในการปฏิบัติตนอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ยังไม่ปรากฏว่ามีคนไทยติดเชื้อไวรัสดังกล่าว
อนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจากกระทรวงสาธารณสุขว่า ผู้ประสงค์เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ที่ซาอุดีอาระเบีย จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น ตามข้อกำหนดของซาอุดีอาระเบีย และต้องได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และสำนักจุฬาราชมนตรี โดยกระทรวงสาธารณสุขจะออกหนังสือรับรองให้แก่ผู้ได้รับวัคซีนดังกล่าว เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการขอรับการตรวจลงตราประเภทเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ จากสถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย
--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--