นายกรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายมีกำหนดหารือทวิภาคีในช่วงเช้าของวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๘ โดยประเด็นสำคัญ ได้แก่ ความร่วมมือด้านแรงงาน การส่งเสริมการลงทุน การเพิ่มมูลค่าการค้า ความร่วมมือด้านสินค้าเกษตร ความร่วมมือด้านประมง การเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางคมนาคม และความร่วมมือในภูมิภาคและระหว่างประเทศ
ภายหลังการหารือ นายกรัฐมนตรีทั้งสองจะเป็นประธานร่วมในการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมอย่างไม่เป็นทางการ ไทย – เวียดนาม ครั้งที่ ๓ ซึ่งจะมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วม ทั้งนี้ ประเด็นการหารือจะครอบคลุมการขยายความร่วมมือในประเด็นที่ไทยและเวียดนามให้ความสำคัญร่วมกัน ได้แก่ ความร่วมมือด้านกลาโหม การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติโดยเฉพาะยาเสพติดและการค้ามนุษย์ การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน การเปิดบริการรถโดยสารประจำทาง การพัฒนาการเดินเรือตามแนวชายฝั่งทะเลเพื่อการขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยว ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนทางภาษา วัฒนธรรม และการกีฬา ความร่วมมือในการส่งเสริมการท่องเที่ยว และความร่วมมือระดับจังหวัด เป็นต้น
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายจะร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามเอกสาร ๕ ฉบับ ได้แก่(๑) แถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมอย่างไม่เป็นทางการ ไทย – เวียดนาม ครั้งที่ ๓ (๒) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน (๓) บันทึกข้อตกลงด้านการจ้างแรงงาน (๔) บันทึกความเข้าใจเพื่อสถาปนาความสัมพันธ์เมืองคู่มิตรระหว่างจังหวัดอุบลราชธานีกับจังหวัดคอนตูม เวียดนาม และ (๕) บันทึกความเข้าใจเพื่อสถาปนาความสัมพันธ์เมืองคู่มิตรระหว่างจังหวัดตราดกับจังหวัดลองอาน เวียดนาม ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีและภริยาจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีเวียดนามและคณะด้วย
อนึ่ง ในระหว่างการเยือนไทย นายกรัฐมนตรีเวียดนามจะกล่าวปาฐกถาในงานสัมมนาด้านการลงทุนในหัวข้อ “Thailand – Vietnam Enterprise Dialogue” ซึ่งจัดโดยสมาคมมิตรภาพไทย – เวียดนาม ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน โดยจะมีคณะผู้แทนภาคเอกชนเวียดนามจาก ๓๐ บริษัทที่ร่วมเดินทางมากับนายกรัฐมนตรีเวียดนามเข้าร่วมพบปะและสร้างเครือข่ายกับภาคเอกชนไทย
--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--