๑. ไทยขอแสดงความยินดีกับคาซัคสถานที่ได้รับเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และขอขอบคุณมิตรประเทศที่ให้การสนับสนุนไทยในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผลการเลือกตั้งที่ต้องลงคะแนนเสียงกันสองรอบแสดงให้เห็นว่า ทั้งไทยและคาซัคสถานต่างเป็นผู้สมัครที่มีคุณสมบัติที่ได้รับการยอมรับและต่างก็ได้แข่งขันในการรณรงค์หาเสียงสนับสนุนกันอย่างฉันมิตรมาโดยตลอด
๒. การรณรงค์หาเสียงที่ผ่านมาของประเทศไทยมิได้มุ่งประโยชน์เพียงเพื่อให้ชนะเลือกตั้งเพียงประการเดียว แต่การรณรงค์ที่ผ่านมาเป็นโอกาสที่ไทยได้สร้างมิตรและสานต่อความร่วมมือในระยะยาวกับมิตรประเทศต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาคของโลก โดยเฉพาะการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการพัฒนา อาทิ การให้แบ่งปันประสบการณ์ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านโครงการฝึกอบรม ดูงาน และการให้ความช่วยเหลือทางด้านวิชาการในสาขาที่ไทยเชี่ยวชาญ ซึ่งแม้จะมิได้ลงสมัครเลือกตั้งคณะมนตรีความมั่นคงฯ ไทยก็ดำเนินโครงการให้ความช่วยเหลือเหล่านี้มาอย่างต่อเนื่อง ในฐานะที่ไทยได้ก้าวพ้นจากสถานะจากการเป็นประเทศผู้รับความช่วยเหลือในอดีตมาเป็นประเทศผู้ให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาแก่ประเทศที่ต้องการรับความช่วยเหลือทั้งในและนอกภูมิภาค
๓. ประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการเยือนและการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการรณรงค์ที่ผ่านมาล้วนแต่เป็นการยกระดับบทบาทของไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ สร้างเสริมและกระชับความสัมพันธ์กับมิตรประเทศทั้งเก่าและใหม่ จึงนับว่าไทยได้รับประโยชน์มากมายจากการสร้างมิตรผ่านดำเนินการที่ผ่านมา
๔. แม้ไทยได้ทำการรณรงค์ขอรับการสนับสนุนจากมิตรประเทศอย่างเต็มที่โดยตลอด แต่ผลการเลือกตั้งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อาทิ การแลกเสียงการสมัครในองค์กรระหว่างประเทศกับประเทศต่าง ๆ นอกจากนี้ หลายประเทศให้โอกาสแก่คาซัคสถานเนื่องจากยังไม่เคยปฏิบัติหน้าที่ในคณะมนตรีความมั่นคงฯ มาก่อน
๕. การที่ไทยไม่ได้รับเลือกตั้งในครั้งนี้ ไม่ได้ปิดกั้นโอกาสที่ไทยจะปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันในฐานะสมาชิกของสหประชาชาติ ให้ความสำคัญและสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของคณะมนตรีความมั่นคงฯ ต่อไป ไทยจะยังมุ่งมั่นผลักดันประเด็นระหว่างประเทศต่าง ๆ ที่ไทยให้ความสำคัญ ทั้งในด้านสันติภาพ ความมั่นคง และการพัฒนาที่ยั่งยืน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปฏิบัติหน้าที่ประธานกลุ่ม ๗๗ และจีน
๖. ประเทศไทยได้ประกาศที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงฯ ในครั้งนี้มาตั้งแต่ปี ๒๕๕๐ ซึ่งเป็นการแสดงความพร้อมและตั้งใจแน่วแน่ของไทยในการเข้ามาทำหน้าที่ในองค์กรหลักสำคัญยิ่งของประชาคมระหว่างประเทศแห่งนี้ ทั้งนี้ ไทยเป็นสมาชิกสหประชาชาติมากว่า ๗๐ ปี และได้เข้าร่วมปฏิบัติการและภารกิจเพื่อสันติภาพในกรอบสหประชาชาติตั้งแต่ปี ๒๕๐๑ จนถึงปัจจุบัน
๗. ไทยเคยได้รับการเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงฯ มาครั้งหนึ่งเมื่อ ๓๐ กว่าปีที่แล้ว (ระหว่างปี ๒๕๒๘-๒๕๒๙) และได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขัน
--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--