เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๙ นางบุษยา มาทแล็ง ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้เป็นประธานเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานโดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไปทอดถวาย ณ วัดพังรี ซัมปา กรุงทิมพูราชอาณาจักรภูฏาน โดยสมเด็จพระชนนี H.M. Queen Mother Sangay Choden Wangchuck ได้เสด็จฯ เข้าร่วมพิธีในฐานะผู้แทนพระองค์สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏาน พร้อมด้วย H.R.H. Princess Euphelma Choden Wangchuckในขณะที่นาย Lyonpo Dawa Gyeltshen รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและวัฒนธรรมภูฏาน ได้เข้าร่วมในฐานะผู้แทนรัฐบาลภูฏาน และมีผู้เข้าร่วมฝ่ายไทย อาทิ นางสาวพรรณพิมล สุวรรณพงศ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงธากา ซึ่งมีเขตอาณาครอบคลุมราชอาณาจักรภูฏาน รวมทั้งข้าราชการสถานเอกอัครราชทูตฯ ชุมชนไทยและอาสาสมัครไทยที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในภูฏาน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและวัฒนธรรมภูฏานได้กล่าวสดุดีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า ทรงเป็นธรรมราชา และทรงทำคุณประโยชน์ต่อทั้งประเทศไทยและโลกและชาวภูฏานร่วมแสดงความอาลัยและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
การทอดถวายผ้าพระกฐินพระราชทานของกระทรวงการต่างประเทศที่ภูฏานในปีนี้ เป็นครั้งที่ ๓ โดยเป็นครั้งแรกของวัดพังรี ซัมปา ซึ่งเป็นวัดหลวงนิกายมหายานเก่าแก่ สร้างขึ้นในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ ๑๖ โดยพระชาวทิเบตชื่อ Ngawang Chogyel ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของซับดรุง งาวัง นัมเกล พระชาวทิเบตผู้ก่อตั้งประเทศภูฏาน นอกจากนี้ สมเด็จพระชนนี H.M. Queen Mother Sangay Choden Wangchuck พระราชินีในสมเด็จพระราชาธิบดี Jigme Singye Wangchuck ทรงอุปถัมภ์สิ่งก่อสร้างภายในวัดด้วย ปัจจุบันมีพระสงฆ์และสามเณรจำพรรษาอยู่จำนวน ๑๒๙ รูป ทั้งนี้ พิธีทอดถวายผ้ากฐินพระราชทานฯ จัดขึ้นในวันสิ้นเดือนตามปฏิทินจันทรคติ ซึ่งชาวภูฏานถือว่าเป็นวันมงคล อีกทั้งเป็นการทอดถวายผ้ากฐินพระราชทานฯ ครั้งที่ ๓ ซึ่งถือเป็นเลขศักดิ์สิทธิ์เพราะหมายถึงพระรัตนตรัย
พิธีทอดถวายผ้าพระกฐินพระราชทานดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ ผู้เข้าร่วมงานต่างแสดงความปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณ ซึ่งในปัจจุบันทุกวัด วัง และสถานที่ราชการในภูฏานยังคงมีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อแสดงความอาลัยและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและร่วมกันถวายเป็นพระราชกุศล นอกจากนี้ ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและแสดงถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของประชาชนทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ สามารถรวบรวมเงินบริจาค ซึ่งประกอบด้วยเงินพระราชทานบำรุงพระอารามจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เงินถวายเป็นพระราชกุศลจากกระทรวงการต่างประเทศ และเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๑,๔๐๔,๖๐๖.- นูตรัม หรือประมาณ ๗๔๔,๘๐๐.- บาท
--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--