ผลการเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ๑๑ – ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๙

ข่าวต่างประเทศ Thursday December 15, 2016 16:34 —กระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อวันที่ ๑๑ – ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๙ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเดินทางเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างเป็นทางการตามคำเชิญของเชค อับดุลลา บิน ซายิด อัล นะห์ยาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

การเยือนครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฯ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อเป็นประธานร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและวิชาการ ไทย – สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๑๑ – ๑๒ พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้มีหนังสือเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยือนเป็นการตอบแทน

เมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๙ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองฝ่ายได้พบหารือทวิภาคี โดยฝ่ายไทยได้แสดงความซาบซึ้งที่ผู้นำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้แก่ ประธานาธิบดีและเจ้าผู้ครองรัฐอาบูดาบี รองประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีและมกุฎราชกุมารรัฐอาบูดาบี มีพระราชโทรเลขทูลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ แสดงความเสียพระราชหฤทัยต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และพระราชโทรเลขถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และแสดงความยินดีกับประชาชนไทย ในโอกาสทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทย

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ติดตามความคืบหน้าของผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมฯเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตลอดจนหารือถึงการส่งเสริมความร่วมมือในสาขาใหม่ ๆ และแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในระดับโลกและภูมิภาคโดยมีประเด็นสำคัญ ได้แก่

ด้านความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายแสดงความพร้อมในการดำเนินการตามกระบวนการภายในให้ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งลงนามเมื่อปี ๒๕๕๘ ให้มีผลบังคับใช้ นอกจากนี้ ฝ่ายไทยได้เชิญผู้แทนฝ่ายสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เดินทางเยือนไทยเพื่อร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ และดูงานด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ของไทย รวมทั้งหารือถึงความประสงค์ของไทยที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านการปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะ

การสกัดกั้นที่ท่าอากาศยาน

ด้านความมั่นคงทางอาหารและความมั่นคงทางพลังงาน ทั้งสองฝ่ายได้แจ้งสถานะล่าสุดของการแต่งตั้งผู้ประสานงานด้านความมั่นคงทางอาหารและได้ติดตามความคืบหน้าการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการด้านพลังงาน ซึ่งจะเป็นช่องทางการประสานงานด้านความมั่นคงทางอาหารและความมั่นคงทางพลังงานระหว่างกันต่อไป

ด้านเศรษฐกิจ ไทยแจ้งความประสงค์ของไทยที่จะเข้าร่วมงาน EXPO2020 ที่จะจัดขึ้นในปี ๒๕๖๓ ที่เมืองดูไบ ภายใต้หัวข้อ Connecting Minds Creating the Future ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงแนวทางการขยายการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลและอาหารประเภทอื่น ๆ รวมถึงสินค้าเพิ่มมูลค่า (value added products) นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนระหว่างไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ ๑๖ ธันวาคม ศกนี้

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งต่อฝ่ายสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถึงโอกาสในการลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor Development) ซึ่งจะพัฒนาและบูรณาการเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมทางตะวันออกของประเทศไทยเพื่อดึงดูดนักลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับนวัตกรรมของไทย ทั้งนี้ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกจะเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมของอาเซียนที่จะเชื่อมต่อท่าเรือ

ในประเทศไทยกับท่าเรือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และท่าเรืออื่น ๆ ในทวีปเอเชีย

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้เน้นย้ำความสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองประเทศในด้านการท่องเที่ยวซึ่งจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างกันด้วย

ความร่วมมือระดับภูมิภาคและพหุภาคี ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับกลุ่มประเทศคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council – GCC) และพัฒนาการของกรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue – ACD) ซึ่งไทยพร้อมร่วมมือและสนับสนุนการเป็นประธาน ACD ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในปี ๒๕๖๐ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในเวทีระหว่างประเทศและในระดับภูมิภาคด้วย

การเยือนในครั้งนี้เป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือทวิภาคีไทย – สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในทุกมิติ เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ

--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ