นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีกำหนดเดินทางเข้าร่วมการประชุมระดับสูง เวทีข้อริเริ่มเส้นทางสายไหมและเส้นทางสายไหมทางทะเลในศตวรรษที่ ๒๑ (High-Level Dialogue Belt and Road Forum for International Cooperation) ในวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามคำเชิญของรัฐบาลจีน
วัตถุประสงค์หลักในการเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ คือ เพื่อแสดงการสนับสนุนข้อริเริ่มด้านความเชื่อมโยงดังกล่าวของจีน ซึ่งส่งเสริมและเกื้อหนุนยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายสำคัญของไทยที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาร่วมกันในลักษณะความร่วมมือที่ทุกฝ่ายล้วนได้ประโยชน์ นอกจากนี้ ยังเป็นการแสดงความพร้อมของไทยในการเป็นจุดเชื่อมที่สำคัญของเส้นทางสายไหมทั้งทางบกและทางทะเล
การประชุมระดับสูงเวทีข้อริเริ่มเส้นทางสายไหมและเส้นทางสายไหมทางทะเลศตวรรษที่ ๒๑ ในวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐ แบ่งเป็น ๒ ช่วง ได้แก่ จะแบ่งออกเป็นพิธีเปิดการประชุมและการหารือแบบเต็มคณะในช่วงเช้า และการหารือ ๖ เวทีคู่ขนานในหัวข้อต่าง ๆ ในช่วงบ่าย ซึ่งประกอบด้วย การประสานนโยบายความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน ความเชื่อมโยงด้านการค้า ความเชื่อมโยงด้านการเงิน ความเชื่อมโยงระหว่างประชาชน และการแลกเปลี่ยนความเห็นทางวิชาการ
นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้กล่าวถึงแนวคิดเส้นทางสายไหมและเส้นทางสายไหมทางทะเลในศตวรรษที่ ๒๑ หรือนโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางเป็นครั้งแรกในปี ๒๕๕๖ และจีนได้มีนโยบายผลักดันแนวคิดดังกล่าวให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมผ่านการจัดตั้งกลไกที่สำคัญ อาทิ การก่อตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเอเชียและกองทุนเส้นทางสายไหม เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและความเชื่อมโยงในภูมิภาคต่าง ๆ ทั้งนี้ จีนจัดการประชุมเวทีข้อริเริ่มเส้นทางสายไหมและเส้นทางสายไหมทางทะเลศตวรรษที่ ๒๑ ขึ้นเป็นครั้งแรก และคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมการประชุมเวทีระดับสูงจากนานาประเทศไม่ต่ำกว่า ๑,๒๐๐ คน โดยเป็นผู้แทนระดับรัฐมนตรีกว่า ๑๐๐ คน และระดับผู้นำประมาณ ๒๘ คน
--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--