นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีกำหนดจะร่วมในคณะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง ครั้งที่ ๒ ในวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๑ ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา
กัมพูชาและจีนจะเป็นประธานร่วมการประชุมในครั้งนี้ โดยที่ประชุมจะทบทวนการดำเนินงานและกิจกรรมของประเทศสมาชิกนับตั้งแต่การประชุมผู้นำฯ ครั้งที่ ๑ เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๕๙ และจะกำหนดวิสัยทัศน์เกี่ยวกับทิศทางการดำเนินงานของกรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง ในอนาคต
ที่ประชุมจะรับรองเอกสารผลลัพธ์ ๒ ฉบับ ได้แก่ (๑) แผนปฏิบัติการระยะ ๕ ปี กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (5 – Year Plan of Action 2018 – 2022) ซึ่งจะกำหนดแนวทางและกิจกรรมของกรอบความร่วมมือในระยะ ๕ ปีข้างหน้า ซึ่งที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศแม่โขง - ล้านช้าง ครั้งที่ ๓ เมื่อเดือนธันวาคม ๒๕๖๐ ได้พิจารณาและเห็นชอบในหลักการแล้ว และ (๒) ปฏิญญาพนมเปญ (Phnom Penh Declaration) ซึ่งเป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองของผู้นำที่จะมุ่งสนับสนุนกรอบความร่วมมือดังกล่าวให้บรรลุเป้าประสงค์ของการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประชาชนในประเทศลุ่มน้ำโขง รวมทั้งกำหนดแผนงานที่จะดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมตามแผนปฏิบัติการระยะ ๕ ปี
ในการประชุมครั้งนี้ ไทยประสงค์จะ (๑) ผลักดันให้กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้างเป็นกรอบความร่วมมือฯ ที่ทันสมัย (๒) ทำให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างกรอบแม่โขง – ล้านช้างกับแนวคิดหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (Belt Road Initiative-BRI) รวมทั้งเชื่อมระเบียงเศรษฐกิจต่าง ๆ ในอนุภูมิภาคเข้ากับ BRI เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการพัฒนาของอนุภูมิภาค (๓) การเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการพัฒนาแบบยั่งยืนผ่านการใช้เครื่องมือที่ทันสมัย เช่น นวัตกรรม อุตสาหกรรมที่ทันสมัยที่สอดคล้องกับนโยบายประเทศไทย ๔.๐ และระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และ (๔) สนับสนุนสาขาความร่วมมือภายใต้กรอบแม่โขง – ล้านช้าง โดยเฉพาะด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ อันจะนำมาซึ่งการเกษตรที่ยั่งยืนในประเทศลุ่มน้ำโขง
กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง มีประเทศสมาชิกทั้งหมด ๖ ประเทศ ได้แก่ จีน กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา ไทย และเวียดนาม มีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงบนพื้นฐานของความเท่าเทียม การมีส่วนร่วม ความสมัครใจ และหลักฉันทามติ
--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--