งานสัมมนา หัวข้อ “โอกาสการค้าและการลงทุนในซูดาน”

กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐซูดานประจำประเทศไทย จัดงานสัมมนา หัวข้อ “โอกาสการค้าและการลงทุนในซูดาน” ซึ่งเป็นการขยายผลต่อยอดจากการดำเนินโครงการขยายตลาดใหม่และประเทศหุ้นส่วนที่สำคัญ (Focus Group) ประจำปี 2560 ของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งได้นำภาคเอกชนไทยในสาขาที่มีศักยภาพไปร่วมสำรวจโอกาสลู่ทางการค้าและการลงทุนในซูดานเมือเดือนกันยายน 2560 โดยการสัมมนาจะจัดขึ้นในวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๗.๐๐ น. ณ ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทนเป็นประธานเปิดงานสัมมนา

การสัมมนาจะมีการบรรยายให้ข้อมูลด้านการค้าและการลงทุนจากนาย Abdulrahman Mohamed Dirar รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และการวางแผนเศรษฐกิจซูดาน และนาย Osama Faisl Ali Alsayed รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการลงทุนซูดาน รวมถึงการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดเห็นกับผู้แทนภาคเอกชนไทยที่เคยเดินทางเยือนซูดาน จากภาคธุรกิจต่าง ๆ ได้แก่ ภาคอุตสาหกรรมการเกษตรและเกษตรแปรรูป ภาคอุตสาหกรรมประมงและแปรรูปสัตว์น้ำ ภาคอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนและเทคโนโลยีการจัดการพลังงาน นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการคลินิกให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการค้าและลงทุนทั้งในซูดานและภูมิภาคแอฟริกาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยและซูดานด้วย

สาธารณรัฐซูดานหรือซูดาน ตั้งอยู่ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก มีพื้นที่ติดกับอียิปต์ เอริเทรีย เอธิโอเปีย เซาท์ซูดาน ลิเบีย ชาด และสาธารณรัฐแอฟริกากลาง มีจำนวนประชากรกว่า 40 ล้านคน โดยหลังจากสหรัฐอเมริกาประกาศยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางการค้ากับซูดานในปี ๒๕๖๐ ทำให้เศรษฐกิจของซูดานฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ จากการไหลเข้ามาของเงินทุนจากต่างชาติ ทั้งในรูปแบบการเข้ามาลงทุนโดยตรงของชาติตะวันตก และการได้รับเงินกู้จากต่างประเทศเพื่อนำมาใช้พัฒนาระบบโครงสร้างขั้นพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคภายในประเทศ ซึ่งช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุนในการเข้าไปลงทุนในซูดาน

ซูดานนับเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการเป็นแหล่งรองรับการลงทุนและกระจายสินค้าของภาคเอกชนไทยไปยังประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะในภูมิภาคแอฟริกาเนื่องจากซูดานเป็นสมาชิกองค์กรตลาดร่วมแห่งแอฟริกาตะวันออกและแอฟริกาตอนใต้ หรือ COMESA (Common Market for Eastern and Southern Africa) ซึ่งมีประเทศสมาชิกทั้งสิ้น 19 ประเทศ ทั้งยังมี Port Sudan ซึ่งเป็นเมืองท่าที่รองรับการขนส่งสินค้าไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง และประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกด้วย

สินค้าส่งออกหลักของซูดาน ได้แก่ น้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม สินค้าเกษตร อาทิ ฝ้าย งา ถั่ว น้ำตาล กัมอารบิก และสินค้าปศุสัตว์ นอกจากนี้ ซูดานยังมีปริมาณทองคำและอัญมณีจำนวนมาก โดยในปี 2561 รัฐบาลซูดานตั้งเป้าเพิ่มการผลิตทองคำให้ได้มากถึง 110 ตัน ซึ่งจะทำให้ซูดานกลายเป็นประเทศที่ผลิตทองคำได้มากเป็นอันดับ 9 ของโลก และอันดับ 2 ในแอฟริกา

ในปี ๒๕๖๐ ไทยและซูดานมีมูลค่าการค้าระหว่างกันกว่า 2,500 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 18.97 จากปี 2559 โดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากว่าร้อยละ 96 แสดงให้เห็นถึงโอกาสของผู้ส่งออกไทยที่จะเพิ่มมูลค่าการส่งออกไปยังซูดานอย่างต่อเนื่อง

งานสัมมนาดังกล่าวจะเป็นช่องทางเริ่มต้นให้แก่ภาคเอกชนไทยที่สนใจและเล็งเห็นถึงโอกาสในการขยายการค้าและการลงทุนไปยังภูมิภาคใหม่ โดยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐของไทยและซูดาน ซึ่งจะทำให้สามารถตัดสินใจดำเนินธุรกิจและลงทุนได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น

อนึ่ง ในปี ๒๕๖๐ ประเทศไทยมีมูลค่าการค้ากับทุกประเทศทั่วโลกกว่า 15.6 ล้านล้านบาท ในขณะที่มีมูลค่าการค้ากับประเทศในภูมิภาคแอฟริกามีเพียง 3 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.9 ของมูลค่าการค้ารวมทั้งหมดของไทย แต่หากเปรียบเทียบกับอัตราส่วนดุลการค้าที่ไทยได้รับแล้ว จะเห็นได้ว่าประเทศไทยได้ดุลการค้ากับภูมิภาคแอฟริกา คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.3 แสนล้าน หรือมากกว่า 1 ใน 3 ของดุลการค้าที่ประเทศไทยได้รับจากการทำการค้ากับทั่วโลกซึ่งมีมูลค่า 3.78 แสนล้านบาท จึงอาจกล่าวได้ว่าแอฟริกายังเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยโอกาสและศักยภาพในการรองรับการค้าและการลงทุนของไทย

--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--