เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ศาลอาญาได้พิพากษาลงโทษเจ้าของเรือประมงนอกน่านน้ำชื่อ “เซริบู” ในข้อหานำเรือประมงหรือเรือบรรทุกสินค้าประมงห้องเย็นออกไปทำการประมงพาณิชย์ในน่านน้ำของรัฐต่างประเทศและทะเลหลวงโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่นำเรือประมงกลับเข้าเทียบท่าเรือประมงภายในเวลาที่กำหนดตามประกาศของกรมประมง โดยมีโทษปรับรวมมากกว่า ๘๘ ล้านบาท
เรือเซริบูเป็นเรือประมงพาณิชย์ที่มีขนาด ๓๔๗ ตันกรอส ซึ่งออกไปทำการประมงพาณิชย์ในทะเลนอกน่านน้ำไทย ระหว่างวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๘ – ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ และไม่นำเรือประมงกลับเข้าเทียบท่าตามประกาศกรมประมงเมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ ซึ่งกำหนดให้เจ้าของเรือประมงขนาดตั้งแต่ ๓๐ ตันกรอสขึ้นไป ที่ออกไปทำการประมงพาณิชย์ในทะเลนอกน่านน้ำไทยต้องนำเรือประมงกลับเข้าเทียบท่าภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันที่ออกประกาศ ทางการไทยจึงได้ดำเนินคดีกับเจ้าของเรือดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ ศาลได้ตัดสินปรับเรือประมงนอกน่านน้ำที่ทำประมงผิดกฎหมายมียอดปรับสูงสุดรวมแล้วกว่า ๑๓๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท จากเรือประมง ๔ ลำ
ที่มา: กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ