เมื่อวันที่ ๓๐ – ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๑ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าร่วมคณะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ๖ ประเทศ ครั้งที่ ๖ (6th Greater Mekong Subregion (GMS) Summit) ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเข้าร่วมด้วย
การประชุมจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Leveraging on 25 Years of Cooperation, and Building a Sustainable, Integrated, and Prosperous GMS” ในโอกาสครบรอบ ๒๕ ปีของการก่อตั้งแผนงาน GMS โดยที่ประชุมได้ทบทวนการดำเนินงานของแผนงาน GMS ที่ผ่านมา ประกอบด้วยการดำเนินงานด้านการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ การผลักดันกฎระเบียบภายใต้ความตกลงการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และการพัฒนาแนวเส้นทางคมนาคมให้เป็นแนวระเบียงเศรษฐกิจ รวมถึงหารือแนวทางการดำเนินงานในอนาคต
ผู้นำจากประเทศสมาชิก GMS ได้แก่ นายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นายเฮนรี แวน เทียว รองประธานาธิบดีสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ร่วมกันรับรองเอกสารผลลัพธ์การประชุม ได้แก่ (๑) ปฏิญญาร่วมแผนงาน GMS ระดับผู้นำ โดยรับทราบและชื่นชมผลสำเร็จของแผนงาน GMS และแสดงเจตนารมณ์ในการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ 3Cs ได้แก่ Connectivity, Competitiveness และ Community (๒) ร่างแผนปฏิบัติการฮานอยปี พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕ ซึ่งเป็นกรอบและแนวทางการดำเนินงานของแผนงาน GMS ในระยะ ๕ ปีข้างหน้า และ (๓) ร่างกรอบการลงทุนของภูมิภาคปี พ.ศ. ๒๕๖๕ โดยเป็นภาพรวมของกรอบการลงทุนของภูมิภาค GMS ซึ่งประกอบด้วยโครงการความร่วมมือต่าง ๆ
ในช่วงการประชุม นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือเพื่อต่อยอดการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายภายใต้ยุทธศาสตร์ 3Cs อย่างเป็นรูปธรรม โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งเพื่อการเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ การเร่งพัฒนาอย่างรอบด้านเพื่อมุ่งสู่อนุภูมิภาคที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูง และผลักดันให้ GMS เป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันมีความมั่งคั่งและยั่งยืน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมการหารือระหว่างผู้นำ GMS กับภาคเอกชน ในเวที GMS Business Summit เพื่อสนับสนุนให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อน GMS โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลงให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีซึ่งจะเป็นพลังขับเคลื่อนใหม่ในภูมิภาค ซึ่งรัฐบาลไทยส่งเสริมภายใต้นโยบาย Thailand 4.0 และโครงการ EEC
นายกรัฐมนตรียังได้หารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว นายกรัฐมนตรีเวียดนาม และมนตรีแห่งรัฐจีนและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยการหารือดังกล่าวประสบผลสำเร็จในการผลักดันประเด็นความร่วมมือในการส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างกัน ทั้งการเชื่อมเส้นทางอย่างไร้รอยต่อและการปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุน และการท่องเที่ยว รวมทั้งการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับประเทศทั้งสาม โดยบรรยากาศการหารือเป็นไปด้วยไมตรีจิต
แผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงเป็นความร่วมมือของประเทศริมฝั่งแม่น้ำโขง ๖ ประเทศ ได้แก่ จีนตอนใต้ (ยูนนานและกว่างซี) สปป.ลาว เมียนมา ไทย กัมพูชา และเวียดนาม ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยมีธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank – ADB) เป็นผู้ให้การสนับสนุนหลัก มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมโดยการเชื่อมโยงเศรษฐกิจในอนุภูมิภาค ทั้งนี้ GMS มีสาขาความร่วมมือทั้งสิ้น ๑๐ สาขา ได้แก่ คมนาคมขนส่ง โทรคมนาคม พลังงาน การท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข อำนวยความสะดวกทางการค้า การลงทุน การเกษตร และการพัฒนาเมือง
ที่มา: กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ