เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๑ นายรัศม์ ชาลีจันทร์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงมาปูโต สาธารณรัฐโมซัมบิก เป็นผู้แทนรัฐบาลไทยส่งมอบข้าวสารบรรจุถุงจำนวน ๑,๐๐๐ ตัน โดยมีนายโจอาว มาชาทิน ผู้อำนวยการสถาบันจัดการภัยพิบัติแห่งชาติโมซัมบิกเป็นผู้รับมอบ และมีนายราเจนดรา เดอโซซา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์โมซัมบิกเป็นสักขีพยาน
เอกอัครราชทูต ณ กรุงมาปูโต กล่าวในฐานะผู้แทนรัฐบาลและประชาชนชาวไทยว่า ข้าวสารจำนวน ๑,๐๐๐ ตัน ซึ่งเป็นข้าวขาว ๕% บรรจุถุง ๕ กิโลกรัม เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงมิตรภาพและความปรารถนาดีจากประเทศไทยเพื่อช่วยโมซัมบิกจัดการปัญหาภัยพิบัติ ทั้งนี้ ในปัจจุบันทั้งสองฝ่ายมีความร่วมมือที่ใกล้ชิดทั้งในด้านการลงทุนและการแบ่งปันประสบการณ์ด้านการพัฒนาของไทย
ผู้อำนวยการสถาบันจัดการภัยพิบัติแห่งชาติโมซัมบิกกล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความช่วยเหลือรัฐบาลโมซัมบิกอย่างทันท่วงที โดยเฉพาะในขณะที่โมซัมบิกกำลังประสบปัญหาความแห้งแล้งและภัยธรรมชาติต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องในช่วง ๒ – ๓ ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนกว่า ๑.๕ ล้านคนได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ รัฐบาลโมซัมบิกจะเร่งส่งเสริมการทำเกษตรกรรมของประชาชนเพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้
ข้าวสารที่รัฐบาลไทยได้บริจาคให้โมซัมบิกเป็นข้าวในสต็อกของรัฐบาลที่นำมาปรับปรุงคุณภาพและบรรจุถุงที่ระบุข้อความเป็นภาษาไทย “ข้าวไทยเพื่อชาวโมซัมบิก” และภาษาโปรตุเกส “Arroz para os mo?ambicanos” ส่งออกจากท่าเรือที่กรุงเทพฯ เมื่อต้นเดือนเมษายน ๒๕๖๑ และถึงท่าเรือกรุงมาปูโตเมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๑ โดยข้าวไทยถือเป็นสินค้ายอดนิยมในโมซัมบิกเนื่องจากเป็นอาหารหลักและเป็นที่ชื่นชอบของชาวโมซัมบิก โมซัมบิกจึงเป็น ๑ ใน ๑๐ ประเทศที่นำเข้าข้าวสารจากไทยจำนวนมากที่สุด นอกจากนี้ โมซัมบิกยังเป็นประเทศที่ภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนสูงที่สุดในภูมิภาคแอฟริกา คิดเป็นมูลค่าราว ๖ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา: กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ