รองนายกรัฐมนตรีย้ำบทบาทไทยในการประชุมสุดยอด “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ครั้งที่ ๓ ที่ฮ่องกง และหารือโอกาสการลงทุนในไทยกับภาคธุรกิจฮ่องกง และเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง

เมื่อวันที่ ๒๖ - ๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๑ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และเมืองเซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อกล่าวปาฐกถาในการประชุมสุดยอด “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ครั้งที่ ๓ ตามคำเชิญของรัฐบาลฮ่องกง และพบหารือกับภาคธุรกิจและสถาบันการศึกษาชั้นนำที่ฮ่องกง รวมทั้งที่เมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อขยายโอกาสการค้าการลงทุนและความร่วมมือกับหน่วยงานและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมการลงทุนในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี โดยในการเยือนครั้งนี้ มีนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เข้าร่วมด้วย

รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวปาฐกถาในพิธีเปิดการประชุมสุดยอด “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (Belt and Road Summit) ครั้งที่ ๓ ภายใต้หัวข้อ “ร่วมมือกันเพื่อความสำเร็จ” ณ ฮ่องกง ตามคำเชิญของรัฐบาลฮ่องกง และสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Development Council – HKTDC) เมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๑ โดยมีนางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง กล่าวเปิดงาน และมีคณะผู้บริหารระดับสูงและผู้นำภาคเอกชนของฮ่องกง ผู้แทนรัฐบาลจีน รวมทั้งนักธุรกิจจากกว่า ๕๐ ประเทศ รวมกว่า ๕,๐๐๐ คน เข้าร่วม

ในการกล่าวปาฐกถา รองนายกรัฐมนตรีได้ย้ำเรื่องการเชื่อมไทยและกรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง (Ayeyawady - Chao Phraya - Mekong Economic Cooperation Strategy – ACMECS) กับกรอบความร่วมมือระหว่างมณฑลกวางตุ้ง - ฮ่องกง - มาเก๊า (Guangdong - Hong Kong - Macao Greater Bay Area – GBA) กรอบความร่วมมือพื้นที่สามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำจูเจียง (Pan - Pearl River Delta – PPRD) และข้อริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (BRI) ของจีน รวมทั้งได้ขอบคุณผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกงที่ตัดสินใจจะมาจัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง (Hong Kong Economic and Trade Office – HKETO) ประจำประเทศไทย และพร้อมให้การต้อนรับผู้บริหารสูงสุดฮ่องกงและคณะที่จะเดินทางมาเปิดสำนักงานที่ประเทศไทยในช่วงต้นปีหน้า

ในระหว่างการเยือนครั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้พบหารือกับนางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และนายพอล ฉั่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังฮ่องกง โดยได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างไทยกับฮ่องกง และย้ำประเด็นที่รองนายกรัฐมนตรีได้หารือกับผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกงเมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะเรื่องการจัดตั้งสำนักงาน HKETO ประจำประเทศไทย ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีได้แจ้งว่า ไทยพร้อมให้การต้อนรับผู้บริหารสูงสุดฮ่องกงเยือนไทยเพื่อเปิดสำนักงาน HKETO ที่กรุงเทพฯ ในช่วงต้นปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ในเรื่องนี้ ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกงได้ขอให้สภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) จัดคณะนักธุรกิจเยือนไทยด้วย ส่วนในเรื่องการจัดทำความร่วมมือด้านการตรวจคนเข้าเมืองผ่านช่องทางอัตโนมัติ (autogate) ฝ่ายไทยได้แจ้งความพร้อมที่จะประกาศเริ่มใช้ autogate สำหรับชาวฮ่องกงได้ในวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๑

นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีและคณะได้พบหารือกับผู้บริหารระดับสูงจากภาคธุรกิจและสถาบันการศึกษาที่ฮ่องกง ได้แก่ (๑) บริษัท Ho & Partners Architects (hpa) (๒) บริษัท Lan Kwai Fong Group (๓) เครือบริษัท Li & Fung (๔) บริษัท Kerry Logistics (๕) บริษัท Hong Kong Cyberport Management (๖) Hong Kong Science and Technology University สำหรับที่เมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง รองนายกรัฐมนตรีได้พบกับผู้บริหารของ (๑) บริษัท Foxconn Technology (๒) สถาบันวิจัยจีโนมิกส์ปักกิ่ง (Beijing Genomics Institute – BGI) และ (๓) บริษัท UBTECH โดยรองนายกรัฐมนตรีได้หารือแนวทางขยายความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างไทยกับฮ่องกงรวมทั้งไทยกับจีนเพิ่มเติมและเชิญชวนให้เข้ามาลงทุนในอีอีซี

อนึ่ง ในระหว่างการเยือนครั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามและการจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนของไทยรวมจำนวน ๖ ฉบับ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการลงทุนในอีอีซีและความร่วมมือระหว่างกันภายใต้ข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ด้วย

ที่มา: กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ