กรุงเทพ--13 ธ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันที่ 12 ธันวาคม 2550 นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวประจำสัปดาห์ ณ ห้องประชุมกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่าง ประเทศ โดยมีผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว หนังสือพิมพ์ และสถานีโทรทัศน์เข้าร่วมรับฟังและซักถาม ในประเด็นต่างๆ สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเดินทางเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ
นายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 ธันวาคม 2550 โดยมีกำหนดการเข้าเยี่ยมคารวะสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และหารือข้อราชการกับนายฮอร์ นัมฮอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา พร้อมทั้งลงนามความตกลง ACMECS Single Visa
การเยือนกัมพูชาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในครั้งนี้เป็นการยืนยันเจตนารมณ์ของไทยที่พร้อมจะร่วมมือกับฝ่ายกัมพูชาอย่างแข็งขันในการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันใกล้ชิดและส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างรัฐบาลและประชาชนของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ การลงนามความตกลง ACMECS Single Visa ระหว่างไทย-กัมพูชา จะเป็นการต่อยอดความสัมพันธ์และความร่วมมือทวิภาคี เพื่อมุ่งไปสู่การเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาโดยเฉพาะการพัฒนาพื้นที่ชายแดน เพื่อให้ประชาชนทั้งสองฝ่ายได้รับประโยชน์ร่วมกันและรองรับความเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศที่เพิ่มพูนมากขึ้น
การจัดทำความตกลง ACMECS Single Visa เป็นพัฒนาการที่สืบเนื่องมาจากการประชุมสุดยอดประเทศสมาชิก ACMECS ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2546 ที่พุกาม มีมติรับหลักการส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาคตามแนวคิด “สี่ประเทศหนึ่งจุดหมาย: Four Countries, One Destination” และเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2548 ที่ประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ACMECS (กัมพูชา ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม) ที่เมืองเสียมเรียบ ได้ให้เห็นชอบโครงการ ACMECS Single Visa ภายใต้หลักการ ACMECS Minus X ตามแนวคิด “Five Countries, One Destination” โดยให้ไทยกับกัมพูชาดำเนินโครงการนำร่องไปก่อน และประเทศสมาชิกอื่นๆ สามารถเข้าร่วมได้ในภายหลัง
คณะกรรมการร่วมว่าด้วยการจัดทำ ACMECS Single Visa สองฝ่ายได้มีการประชุมหารือรวม 3 ครั้ง โดยในการประชุมครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 23-25 พฤศจิกายน 2549 ที่พัทยา ที่ประชุมฯ เห็นชอบตามเอกสารข้อตกลงปฏิบัติการในการจัดทำACMECS Single Visa (Operational Arrangement for ACMECS Single Visa between Cambodia and Thailand) เพื่อเป็นแนวทางการดำเนินการ โดยได้เห็นชอบเรื่อง (1) วิธีดำเนินการแลกเปลี่ยนข้อมูลการอนุมัติการตรวจลงตรา (2) รายชื่อประเทศที่สามารถขอรับ ACMECS Single Visa (3) วิธีการ เก็บค่าธรรมเนียม (4) การอำนวยความสะดวกแก่ผู้ได้รับการตรวจลงตรา ACMECS Single Visa และ (5) รูปแบบและลักษณะพิเศษด้านความปลอดภัยของ visa stickerACMECS Single Visa นับเป็นอีกสัญลักษณ์ของความร่วมมือ ระหว่างประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ เพื่อร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยวอันจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ และการพัฒนาของทุกประเทศในภูมิภาค ทั้งนี้ ไทยเป็นประเทศที่มีบทบาทนำในการผลักดันให้ ACMECS Single Visa ประสบความสำเร็จ ภายหลังการลงนามในครั้งนี้ จะเกิดการแบ่งปันนักท่องเที่ยวและรายได้จากอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวระหว่างไทยและกัมพูชา อันจะก่อให้เกิดการสร้างรายได้แก่คนท้องถิ่นและลดปัญหาการลักลอบเข้าเมืองมาหางานทำตามแนวชายแดน
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย กระทรวงมหาดไทยจะต้องแก้ไขกฏกระทรวงฯ เพื่อรองรับความตกลง ACMECS Single Visa ดังกล่าว ซึ่งจะทำให้ยังไม่สามารถกำหนดกรอบเวลาการบังคับใช้ความตกลงดังกล่าวได้
2. รายงานผลการลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนอกราชอาณาจักร
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานการลงคะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจากสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ไทย ในต่างประเทศ ณ วันที่ 12 ธันวาคม 2550 ดังนี้
2.1 ในขณะนี้ มีสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่จัดการเลือกตั้งฯ เสร็จเรียบร้อยแล้ว จำนวน 16 แห่ง (ใน 12 ประเทศ) โดยปรากฏผลในภาพรวมว่า โดยส่วนใหญ่แล้วมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งฯ มาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งฯ กว่าร้อยละ 70 และมีบางแห่งมีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งฯ ครบเต็มตามจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งฯ
2.2 เมื่อสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่จัดการเลือกตั้งฯ เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว จะจัดส่งบัตรเลือกตั้งฯโดยทางถุงเมล์การทูตพิเศษมายังกรุงเทพฯ เมื่อถุงเมล์ดังกล่าวมาถึงที่กรุงเทพฯ แล้ว เจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่บริษัทไปรษณีย์ไทยฯ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายถุงเมล์การทูตฯ จะไปรับถุงเมล์ดังกล่าว แล้วนำมาเก็บรวบรวมไว้ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทไปรษณีย์ไทยฯ ตั้งอยู่ที่ถนนแจ้งวัฒนะ โดยมีมาตรการการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด โดยการจัดห้องเก็บรักษาถุงเมล์ดังกล่าวเป็นการเฉพาะ พร้อมทั้งมี การจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งในบริเวณห้องดังกล่าวได้มีการติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิดไว้จำนวน 40 จุด ด้วย
2.3 ในวันที่ 20 ธันวาคม 2550 คณะกรรมการที่ได้รับผิดชอบจะทำการแยกบัตรเลือกตั้งฯ เป็นรายเขตและจังหวัดแล้วจัดส่งไปที่หน่วยจัดการเลือกตั้งตามรายเขตและจังหวัดนั้น ๆ ให้ทันก่อนวันเลือกตั้งทั่วไปคือวันที่ 23 ธันวาคม 2550 เพื่อนำไปนับคะแนน
พร้อมกับการนับคะแนนเลือกตั้งฯ ณ หน่วยเลือกตั้งฯ
2.4 สำหรับการจัดการลงคะแนนเลือกตั้งฯ ของสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ จำนวน 90 แห่ง ใน 65 ประเทศ(ครอบคลุม 88 ประเทศ) มีการกำหนดจุดเลือกตั้งฯ ทั้งสิ้น 170 จุด โดยมีการจัดการเลือกตั้งฯ ในภาพรวมครบทั้ง 3 รูปแบบ โดยบางแห่งใช้วิธีการแบบคูหาเลือกตั้งฯ หรือบางแห่งใช้วิธีการจัดหน่วยเลือกตั้งเคลื่อนที่ หรือด้วยวิธีการทางไปรษณีย์ แล้วแต่ความเหมาะสมของพื้นที่
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
วันที่ 12 ธันวาคม 2550 นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวประจำสัปดาห์ ณ ห้องประชุมกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่าง ประเทศ โดยมีผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว หนังสือพิมพ์ และสถานีโทรทัศน์เข้าร่วมรับฟังและซักถาม ในประเด็นต่างๆ สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเดินทางเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ
นายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 ธันวาคม 2550 โดยมีกำหนดการเข้าเยี่ยมคารวะสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และหารือข้อราชการกับนายฮอร์ นัมฮอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา พร้อมทั้งลงนามความตกลง ACMECS Single Visa
การเยือนกัมพูชาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในครั้งนี้เป็นการยืนยันเจตนารมณ์ของไทยที่พร้อมจะร่วมมือกับฝ่ายกัมพูชาอย่างแข็งขันในการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันใกล้ชิดและส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างรัฐบาลและประชาชนของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ การลงนามความตกลง ACMECS Single Visa ระหว่างไทย-กัมพูชา จะเป็นการต่อยอดความสัมพันธ์และความร่วมมือทวิภาคี เพื่อมุ่งไปสู่การเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาโดยเฉพาะการพัฒนาพื้นที่ชายแดน เพื่อให้ประชาชนทั้งสองฝ่ายได้รับประโยชน์ร่วมกันและรองรับความเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศที่เพิ่มพูนมากขึ้น
การจัดทำความตกลง ACMECS Single Visa เป็นพัฒนาการที่สืบเนื่องมาจากการประชุมสุดยอดประเทศสมาชิก ACMECS ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2546 ที่พุกาม มีมติรับหลักการส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาคตามแนวคิด “สี่ประเทศหนึ่งจุดหมาย: Four Countries, One Destination” และเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2548 ที่ประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ACMECS (กัมพูชา ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม) ที่เมืองเสียมเรียบ ได้ให้เห็นชอบโครงการ ACMECS Single Visa ภายใต้หลักการ ACMECS Minus X ตามแนวคิด “Five Countries, One Destination” โดยให้ไทยกับกัมพูชาดำเนินโครงการนำร่องไปก่อน และประเทศสมาชิกอื่นๆ สามารถเข้าร่วมได้ในภายหลัง
คณะกรรมการร่วมว่าด้วยการจัดทำ ACMECS Single Visa สองฝ่ายได้มีการประชุมหารือรวม 3 ครั้ง โดยในการประชุมครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 23-25 พฤศจิกายน 2549 ที่พัทยา ที่ประชุมฯ เห็นชอบตามเอกสารข้อตกลงปฏิบัติการในการจัดทำACMECS Single Visa (Operational Arrangement for ACMECS Single Visa between Cambodia and Thailand) เพื่อเป็นแนวทางการดำเนินการ โดยได้เห็นชอบเรื่อง (1) วิธีดำเนินการแลกเปลี่ยนข้อมูลการอนุมัติการตรวจลงตรา (2) รายชื่อประเทศที่สามารถขอรับ ACMECS Single Visa (3) วิธีการ เก็บค่าธรรมเนียม (4) การอำนวยความสะดวกแก่ผู้ได้รับการตรวจลงตรา ACMECS Single Visa และ (5) รูปแบบและลักษณะพิเศษด้านความปลอดภัยของ visa stickerACMECS Single Visa นับเป็นอีกสัญลักษณ์ของความร่วมมือ ระหว่างประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ เพื่อร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยวอันจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ และการพัฒนาของทุกประเทศในภูมิภาค ทั้งนี้ ไทยเป็นประเทศที่มีบทบาทนำในการผลักดันให้ ACMECS Single Visa ประสบความสำเร็จ ภายหลังการลงนามในครั้งนี้ จะเกิดการแบ่งปันนักท่องเที่ยวและรายได้จากอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวระหว่างไทยและกัมพูชา อันจะก่อให้เกิดการสร้างรายได้แก่คนท้องถิ่นและลดปัญหาการลักลอบเข้าเมืองมาหางานทำตามแนวชายแดน
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย กระทรวงมหาดไทยจะต้องแก้ไขกฏกระทรวงฯ เพื่อรองรับความตกลง ACMECS Single Visa ดังกล่าว ซึ่งจะทำให้ยังไม่สามารถกำหนดกรอบเวลาการบังคับใช้ความตกลงดังกล่าวได้
2. รายงานผลการลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนอกราชอาณาจักร
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานการลงคะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจากสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ไทย ในต่างประเทศ ณ วันที่ 12 ธันวาคม 2550 ดังนี้
2.1 ในขณะนี้ มีสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่จัดการเลือกตั้งฯ เสร็จเรียบร้อยแล้ว จำนวน 16 แห่ง (ใน 12 ประเทศ) โดยปรากฏผลในภาพรวมว่า โดยส่วนใหญ่แล้วมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งฯ มาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งฯ กว่าร้อยละ 70 และมีบางแห่งมีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งฯ ครบเต็มตามจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งฯ
2.2 เมื่อสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่จัดการเลือกตั้งฯ เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว จะจัดส่งบัตรเลือกตั้งฯโดยทางถุงเมล์การทูตพิเศษมายังกรุงเทพฯ เมื่อถุงเมล์ดังกล่าวมาถึงที่กรุงเทพฯ แล้ว เจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่บริษัทไปรษณีย์ไทยฯ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายถุงเมล์การทูตฯ จะไปรับถุงเมล์ดังกล่าว แล้วนำมาเก็บรวบรวมไว้ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทไปรษณีย์ไทยฯ ตั้งอยู่ที่ถนนแจ้งวัฒนะ โดยมีมาตรการการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด โดยการจัดห้องเก็บรักษาถุงเมล์ดังกล่าวเป็นการเฉพาะ พร้อมทั้งมี การจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งในบริเวณห้องดังกล่าวได้มีการติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิดไว้จำนวน 40 จุด ด้วย
2.3 ในวันที่ 20 ธันวาคม 2550 คณะกรรมการที่ได้รับผิดชอบจะทำการแยกบัตรเลือกตั้งฯ เป็นรายเขตและจังหวัดแล้วจัดส่งไปที่หน่วยจัดการเลือกตั้งตามรายเขตและจังหวัดนั้น ๆ ให้ทันก่อนวันเลือกตั้งทั่วไปคือวันที่ 23 ธันวาคม 2550 เพื่อนำไปนับคะแนน
พร้อมกับการนับคะแนนเลือกตั้งฯ ณ หน่วยเลือกตั้งฯ
2.4 สำหรับการจัดการลงคะแนนเลือกตั้งฯ ของสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ จำนวน 90 แห่ง ใน 65 ประเทศ(ครอบคลุม 88 ประเทศ) มีการกำหนดจุดเลือกตั้งฯ ทั้งสิ้น 170 จุด โดยมีการจัดการเลือกตั้งฯ ในภาพรวมครบทั้ง 3 รูปแบบ โดยบางแห่งใช้วิธีการแบบคูหาเลือกตั้งฯ หรือบางแห่งใช้วิธีการจัดหน่วยเลือกตั้งเคลื่อนที่ หรือด้วยวิธีการทางไปรษณีย์ แล้วแต่ความเหมาะสมของพื้นที่
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-