การประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ประจำประเทศเพื่อนบ้านกับผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดน

กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับกระทรวงมหาดไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ประจำประเทศเพื่อนบ้านกับผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนในหัวข้อ “ความร่วมมือเพื่อพัฒนาชายแดนที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” ระหว่างวันที่ ๙ – ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๑ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการการทำงานระหว่างกระทรวงการต่างประเทศกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติและนโยบาย “ไทยนิยม ยั่งยืน” ด้วยการส่งเสริมการพัฒนาให้จังหวัดชายแดนมีความมั่งคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

ในการประชุมครั้งนี้ เอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ไทยประจำประเทศเพื่อนบ้านทั้ง ๕ ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา สปป. ลาว เมียนมา เวียดนาม และมาเลเซีย และผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนทั้ง ๓๒ จังหวัด ร่วมกับผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวม ๑๙ หน่วยงาน จะระดมสมองในวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๑ เพื่อศึกษาโอกาสและความท้าทาย และกำหนดมาตรการ โครงการนำร่อง รวมทั้งกลไกความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาจังหวัดชายแดนของไทยให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ด้วยการส่งเสริมความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี

จากนั้นในวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๑ นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเป็นประธานการประชุมเต็มคณะเพื่อให้นโยบายการพัฒนาจังหวัดชายแดนในมิติด้านการต่างประเทศและรับฟังข้อเสนอของเอกอัครราชทูตและผู้ว่าราชการจังหวัด โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมด้วย

กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงมหาดไทยมุ่งส่งเสริมผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมต่อประชาชน ดังนี้

๑. ด้านความมั่นคง มุ่งให้ชายแดนมีความมั่นคง ปลอดภัย อาชญากรรมข้ามชาติลดน้อยลง และประเทศไทยร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านส่งเสริมเสถียรภาพในอนุภูมิภาค

๒. ด้านความมั่งคั่ง การค้าและการลงทุนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เกิดการกระจายรายได้ลงสู่พื้นที่ มีการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมไร้รอยต่อ และอนุภูมิภาคเป็นระเบียงเศรษฐกิจแห่งเอเชีย

๓. ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน จังหวัดชายแดนของไทยมีการพัฒนาที่ลดความเหลื่อมล้ำและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เกิดการพัฒนาอนุภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภาคพื้นแผ่นดินใหญ่ที่เป็นไปอย่างยั่งยืน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ที่มา: กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ