กรุงเทพ--19 ธ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ในวันที่ 20 ธันวาคม 2550 นายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ พลโท Khateer Hasan Khan (ขะตีร์ ฮัสซัน ข่าน) เอกอัครราชทูตฯ สาธารณรัฐอิสลามปากีสถานประจำประเทศไทย จะได้ลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานว่าด้วยความร่วมมือในการโอนตัวผู้กระทำผิดและการบังคับให้เป็นตามคำพิพากษาในคดีอาญา ณ ห้องบัวแก้ว กระทรวงการต่างประเทศ
การลงนามความตกลงฯ ถือได้ว่าเป็นอีกมิติหนึ่งของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้ประเทศไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อวัตถุประสงค์หลักในการจัดทำความตกลงดังกล่าวซึ่งมุ่งที่จะช่วยให้ผู้กระทำผิดสามารถปรับตัวเพื่อกลับคืนสู่สังคมของตนได้ โดยความตกลงดังกล่าวได้กำหนดมาตรการต่าง ๆ ที่อนุญาตให้ผู้กระทำผิดได้รับการโอนตัวกลับไปยังประเทศของตนเพื่อรับโทษที่เหลือ ภายหลังจากที่ผู้กระทำผิดได้รับโทษจำคุกเป็นเวลาขั้นต่ำสุดตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายของรัฐผู้โอนแล้ว ซึ่งในภายหลังจากที่รัฐบาลของประเทศทั้งสองได้มีการลงนามความตกลงฯ แล้ว ก็จะได้มีการแลกเปลี่ยนสัตยาบันสารความตกลงฯ ในโอกาสแรกเพื่อการมีผลใช้บังคับต่อไป ซึ่งจะทำให้ความตกลงฯ นี้เป็นเสมือนกรอบที่จะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายและการบริหารงานกระบวนการยุติธรรมระหว่างไทยกับปากีสถานให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
ในวันที่ 20 ธันวาคม 2550 นายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ พลโท Khateer Hasan Khan (ขะตีร์ ฮัสซัน ข่าน) เอกอัครราชทูตฯ สาธารณรัฐอิสลามปากีสถานประจำประเทศไทย จะได้ลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานว่าด้วยความร่วมมือในการโอนตัวผู้กระทำผิดและการบังคับให้เป็นตามคำพิพากษาในคดีอาญา ณ ห้องบัวแก้ว กระทรวงการต่างประเทศ
การลงนามความตกลงฯ ถือได้ว่าเป็นอีกมิติหนึ่งของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้ประเทศไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อวัตถุประสงค์หลักในการจัดทำความตกลงดังกล่าวซึ่งมุ่งที่จะช่วยให้ผู้กระทำผิดสามารถปรับตัวเพื่อกลับคืนสู่สังคมของตนได้ โดยความตกลงดังกล่าวได้กำหนดมาตรการต่าง ๆ ที่อนุญาตให้ผู้กระทำผิดได้รับการโอนตัวกลับไปยังประเทศของตนเพื่อรับโทษที่เหลือ ภายหลังจากที่ผู้กระทำผิดได้รับโทษจำคุกเป็นเวลาขั้นต่ำสุดตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายของรัฐผู้โอนแล้ว ซึ่งในภายหลังจากที่รัฐบาลของประเทศทั้งสองได้มีการลงนามความตกลงฯ แล้ว ก็จะได้มีการแลกเปลี่ยนสัตยาบันสารความตกลงฯ ในโอกาสแรกเพื่อการมีผลใช้บังคับต่อไป ซึ่งจะทำให้ความตกลงฯ นี้เป็นเสมือนกรอบที่จะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายและการบริหารงานกระบวนการยุติธรรมระหว่างไทยกับปากีสถานให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-