ไทยฝึกอบรมการปฏิบัติการร่วมทางทะเลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวังประมงผิดกฎหมาย

ข่าวต่างประเทศ Monday August 27, 2018 15:52 —กระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อวันที่ ๖ – ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๑ ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ได้จัดการฝึกอบรมการบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ ด้านการบริหารจัดการภายในความมั่นคงทางทะเล (C-MEX 18) ร่วมกับการฝึกภาคสนามทางทะเล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ที่บริเวณอ่าวไทยตอนบน จังหวัดชลบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติการร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ภายใต้ ศรชล. ได้แก่ กองทัพเรือ กองบังคับการตำรวจน้ำ กรมศุลกากร กรมเจ้าท่า กรมประมง และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อเตรียมความพร้อมในการยกระดับ ศรชล. ให้เป็นศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในอนาคต

การฝึกอบรมแบ่งเป็น ๒ ส่วนหลัก ได้แก่ การฝึกอบรมแลกเปลี่ยนความรู้ และการฝึกภาคสนาม โดยในปีนี้ได้มุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรในการตรวจค้นเพื่อป้องกันและปราบปรามภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางทะเล ได้แก่ การทำการประมงผิดกฎหมาย โดยเฉพาะเรือประมงไทยที่เปลี่ยนสัญชาติเป็นเรือประมงชาติอื่น แต่ยังคงลักลอบเข้ามาทำการประมงโดยผิดกฎหมายในน่านน้ำไทย และเรือสินค้าที่ถูกคว่ำบาตรโดยองค์การสหประชาชาติ ซึ่งลักลอบบรรทุกวัตถุที่ใช้ได้ ๒ ทาง เช่น สารกัมมันตภาพรังสี มายังน่านน้ำไทยโดยผิดกฎหมาย

ในส่วนของการฝึกภาคสนาม การฝึกครอบคลุมตั้งแต่การออกลาดตระเวนค้นหาเรือเป้าหมายทั้งทางเรือและอากาศยาน การตรวจเรือและให้ความช่วยเหลือลูกเรือบนเรือโดยชุดสหวิชาชีพ และการดำเนินคดีตามกฎหมายหากพบการกระทำผิดโดยทันที เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความรู้ความเข้าใจและเกิดทักษะในการทำงานแบบบูรณาการ เพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ที่ผ่านมา ศรชล. เป็นหน่วยงานทำหน้าที่ประสานงานและบูรณาการการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ โดยรัฐบาลไทยมีแผนที่จะยกระดับ ศรชล. ให้เป็นศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เพื่อเพิ่มเอกภาพและประสิทธิภาพในการสั่งการ อำนวยการ และควบคุมการปฏิบัติของหน่วยงานต่าง ๆ ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ซึ่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้มีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พ.ศ. ... ด้วยแล้ว เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๑

ที่มา: กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ