พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และคณะ มีกำหนดเดินทางเยือนกรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ ๒๗ – ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
ในการเยือนครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะพบหารืออย่างเป็นทางการกับนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรม ๔.๐ ความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งรวมไปถึงการพัฒนาศักยภาพของ SMEs สตาร์ทอัพส์ และการอาชีวศึกษา เพื่อเสริมสร้างทักษะอาชีพ อันจะนำไปสู่การเจริญเติบโตที่ครอบคลุม และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
การหารือดังกล่าวจะเป็นโอกาสให้ไทยและเยอรมนีหารือกันถึงความร่วมมือในช่วงที่ไทยจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนและเยอรมนีเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในปี ๒๕๖๒ เกี่ยวกับประเด็นระหว่างประเทศที่เป็นผลประโยชน์หรือข้อห่วงกังวลร่วมกันของภูมิภาคเอเชียและยุโรป ไทยและเยอรมนีจะพิจารณาขยายความร่วมมือด้านการพัฒนาในกรอบไตรภาคี และในกรอบอาเซียน ในฐานะที่เยอรมนีได้รับสถานะหุ้นส่วนด้านการพัฒนาด้วย รวมทั้งจะเชิญให้เยอรมนีพิจารณาเป็นหุ้นส่วนด้านการพัฒนาของ ACMECS เพื่อนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน
ในการเยือนครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีกำหนดจะเข้าร่วมกิจกรรม Thai-German Business Forum: Asia-Europe Partnership for the Future ซึ่งจะมีผู้เข้าร่วมจากทั้งภาครัฐและเอกชนของเยอรมนีอย่างกว้างขวาง ตลอดจนพบหารือกับผู้บริหารระดับสูงของภาคเอกชนเยอรมันในอุตสาหกรรมระบบรางและยานยนต์แห่งอนาคต ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย และเดินทางไปศึกษาดูงานสถาบันวิจัยประยุกต์เฟราน์โฮเฟอร์ไอพีเค (Fraunhofer IPK) ด้านอุตสาหกรรม ๔.๐ ด้วย ไทยหวังว่า การร่วมมือดังกล่าวจะนำไปสู่การเพิ่มพูนระดับการค้าการลงทุน การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการพัฒนาประเทศไทยให้พ้นกับดักรายได้ปานกลาง ตามกรอบเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติอีกด้วย นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะมีโอกาสพบปะชุมชนไทยในเยอรมนี ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ ๒ ของยุโรป เพื่อสอบถามสภาพความเป็นอยู่และแสวงหาแนวทางในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยด้วย
อนึ่ง ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับเยอรมนี ดำเนินมายาวนานถึง ๑๕๖ ปี และปัจจุบันได้พัฒนาก้าวหน้าไปมาก ครอบคลุมตั้งแต่ระดับสูงจนถึงระดับประชาชนในทุกสาขาความร่วมมือ การเยือนครั้งนี้จะเป็นการเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเยอรมนี และยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับประเทศในยุโรปหลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางเยือนสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสเมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๖๑
ที่มา: กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ