เมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๑ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้หารือกับดาโต๊ะ ปาดูกา ลิม จ็อก ฮอย (Dato Paduka Lim Jock Hoi) เลขาธิการอาเซียน เพื่อเตรียมการและหารือเกี่ยวกับแนวทางการประสานงานเพื่อขับเคลื่อนประเด็นที่ไทยจะให้ความสำคัญในช่วงการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปี ๒๕๖๒ โดยได้หารืออย่างกว้างขวางเกี่ยวกับความร่วมมือกับเลขาธิการอาเซียนในการผลักดันแนวคิดหลัก “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” (Advancing Partnership for Sustainability) ตลอดจนบทบาทที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นของเลขาธิการอาเซียน การสนับสนุนสำหรับศูนย์อาเซียนต่าง ๆ ที่จะจัดตั้งขึ้นที่ไทย และการเสริมสร้างความเข้มแข็งของสำนักเลขาธิการอาเซียนด้านงบประมาณและบุคลากร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เน้นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานไทยกับสำนักเลขาธิการอาเซียนในการรับมือและมีข้อริเริ่มในกรอบอาเซียน เพื่อเตรียมความพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นผลจากเทคโนโลยีก้าวกระโดดและการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ ๔ และเตรียมการสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล อีกทั้งได้ขอรับการสนับสนุนจากสำนักเลขาธิการอาเซียนในการประสานงานกับหุ้นส่วนต่าง ๆ ประเทศสมาชิกอาเซียน คู่เจรจา และภาคีภายนอก โดยเฉพาะในประเด็นที่คาบเกี่ยวระหว่างสามเสาหลักของประชาคมอาเซียน และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับสำนักเลขาธิการอาเซียนเกี่ยวกับการสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ หรือ Sustainability of Things (SoT) ทั้งนี้ ได้เน้นว่าฝ่ายไทยสนับสนุนบทบาทที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นของเลขาธิการอาเซียนในการทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานในประเด็นที่คาบเกี่ยวของประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะประเด็นที่ไทยให้ความสำคัญ เช่น เรื่องการบริหารจัดการชายแดน การส่งเสริม ความเชื่อมโยง และการส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นต้น
นอกจากนี้ ฝ่ายไทยยังให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความเข้มแข็งของสำนักเลขาธิการอาเซียนด้านงบประมาณและบุคลากร โดยเฉพาะการมีบทบาทในการเสนอแนะแนวนโยบายของเลขาธิการอาเซียน รวมทั้งแนวทางการระดมเงินทุนและการเพิ่มศักยภาพของสำนักเลขาธิการอาเซียนในงานด้านการวิเคราะห์และวิจัยเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต ซึ่งเลขาธิการอาเซียนแจ้งว่า พร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนไทย ในฐานะประธานอาเซียนในปี ๒๕๖๒ โดยเฉพาะในเรื่องการเตรียมความพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และมุ่งหวังที่จะแก้ไขปัญหาระดับภูมิภาค เช่น ปัญหาทะเลจีนใต้ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และประเด็นอื่น ๆ รวมถึงความสัมพันธ์กับจีน และความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจ การจัดทำความตกลง RCEP และการเพิ่มพูนการแลกเปลี่ยนนักศึกษาและวัฒนธรรม นอกจากนี้ พร้อมสนับสนุนไทยในการสร้างความเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อในอาเซียน และการสร้างความยั่งยืนให้แก่อาเซียนในทุกมิติ โดยเมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๑ ตนได้หารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นอกจากนี้ ได้แจ้งเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดในรัฐยะไข่ ภายหลังจากที่ตนได้เดินทางเยือนเมียนมาเมื่อวันที่ ๑๗ - ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๑ ก่อนเดินทางมาประเทศไทยเพื่อหารือเรื่องบทบาทของศูนย์ประสานงานอาเซียนเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในการจัดการภัยพิบัติ (AHA Centre) และกลไกฉุกเฉินเพื่อมนุษยธรรมอื่น ๆ
ที่มา: กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ