เมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๒ นายดำรง ใคร่ครวญ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ มอบเงินสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของหัวหน้าคณะผู้แทนฮัจย์ทางการของไทย (อะมีรุ้ลฮัจย์) จำนวน ๖๐๐,๐๐๐ บาท ให้แก่ผู้แทนจุฬาราชมนตรี ในฐานะอะมีรุ้ลฮัจย์ ประจำปี ๒๕๖๒ (ฮิจเราะห์ศักราช ๑๔๔๐) โดยมีนายสุธรรม บุญมาเลิศ เลขานุการจุฬาราชมนตรี เป็นผู้รับมอบ และผู้บริหารกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา ร่วมเป็นสักขีพยาน
รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้สอบถามเกี่ยวกับการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ในปี ๒๕๖๒ ของผู้แสวงบุญชาวไทยที่จะเริ่มทยอยเดินทางไปประเทศซาอุดีอาระเบียในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นผู้แสวงบุญชาวมุสลิมที่มาจากทุกภูมิภาคของประเทศไทยโดยเฉพาะจังหวัดภาคใต้ พร้อมยืนยันที่จะให้การสนับสนุนกิจการฮัจย์ รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ ของชุมชนมุสลิมไทยต่อไป ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้ให้การสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของหัวหน้าคณะผู้แทนฮัจย์ทางการของไทยเป็นประจำทุกปีมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๒ ในการนี้ ผู้แทนจุฬาราชมนตรีได้แสดงความขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศที่สนับสนุนกิจกรรมของชุมชนมุสลิมไทยในกิจการฮัจย์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก และแก้ไขปัญหาอุปสรรค และข้อขัดข้องต่าง ๆ ให้แก่ผู้แสวงบุญชาวไทยที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์เป็นอย่างดีตลอดมา
ในโอกาสนี้ เลขานุการจุฬาราชมนตรีได้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ความไม่สงบในซูดาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวัสดิภาพและความปลอดภัยของกลุ่มนักศึกษาไทยในซูดาน เนื่องจากในขณะนี้ผู้ปกครองในประเทศไทยไม่สามารถติดต่อกับบุตรหลานผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งให้ทราบว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร เป็นสถานเอกอัครราชทูตที่มีเขตอาณาครอบคลุมซูดาน ซึ่งได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้เดินทางไปกรุงคาร์ทูม ประเทศซูดาน เพื่อประเมินความรุนแรงของสถานการณ์ พร้อมทั้งหารือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศซูดาน มหาวิทยาลัยที่มีนักศึกษาไทยศึกษาอยู่ และสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำซูดาน เพื่อเตรียมแผนอพยพฉุกเฉินกรณีที่สถานการณ์รุนแรงมากขึ้น รวมทั้งได้พบปะพูดคุยกับนักศึกษาในพื้นที่ด้วย ในชั้นนี้ แม้ว่าระบบอินเทอร์เน็ตไม่สามารถใช้งานได้ แต่ก็ได้มีการสร้างเครือข่ายการติดต่อประสานงานโดยตรงระหว่างสถานกงสุลกิตติมศักดิ์และตัวแทนกลุ่มนักศึกษา เพื่อให้พร้อมอพยพได้ทันทีเมื่อมีความจำเป็น
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะสนับสนุนให้นักศึกษาไทยมุสลิมที่ศึกษาอยู่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกกลางได้เพิ่มพูนทักษะอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การศึกษาภาษาที่สาม และด้านวิชาชีพ
อนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศในฐานะกรรมการในคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทยได้ประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทยเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการตรวจลงตราให้กับผู้แสวงบุญชาวไทยที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบียและได้มอบหมายให้สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ เป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของซาอุดีอาระเบียในพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกการประกอบพิธีฮัจย์ของผู้แสวงบุญชาวไทยให้สำเร็จลุล่วงด้วยดีเสมอมา นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศยังได้ส่งข้าราชการมุสลิมเดินทางไปร่วมปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทยที่ประเทศซาอุดีอาระเบียเป็นประจำทุกปี สำหรับในปี ๒๕๖๒ (ฮ.ศ. ๑๔๔๐) มีผู้แสวงบุญชาวไทยที่ลงทะเบียนแสดงความจำนงเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์จำนวนทั้งสิ้น ๘,๔๖๒ คน
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ