เมื่อวันที่ ๒๕ - ๒๖ กันยายน ๒๕๖๒ นายเจษฎา กตเวทิน อธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา ได้นำคณะทูตานุทูตประจำประเทศไทยจากประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาจำนวน ๘ ประเทศ เยือนจังหวัดสงขลาและปัตตานี เพื่อศึกษาดูงานด้านสังคมและการศึกษา โดยมีเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรโมร็อกโก ราชอาณาจักรบาห์เรน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อุปทูตรัฐสุลต่านโอมานและสาธารณรัฐซูดาน รวมถึงผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ รัฐคูเวต และราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เข้าร่วม
ผู้แทนคณะทูตานุทูตได้เยี่ยมชมย่านเมืองเก่าสงขลา ซึ่งเป็นชุมชนดั้งเดิมของจังหวัดสงขลาที่มีการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างผู้คนจากต่างชาติพันธุ์ ศาสนา และวัฒนธรรม ทั้งคนไทยเชื้อสายจีน ชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม โดยคณะทูตานุทูตได้ชื่นชมความปรองดองของชุมชนท้องถิ่นที่มีความหลากหลายและอยู่ร่วมกัน อย่างสันติมาเป็นเวลาช้านาน โดยย้ำประเด็นสำคัญ ได้แก่ การเคารพซึ่งกันและกันและการมีขันติธรรมของผู้คน ที่มีความแตกต่างทางอัตลักษณ์และความเชื่อ
คณะทูตานุทูตได้เยี่ยมชมโรงเรียนสาธิตอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และโรงเรียนจงรักสัตย์วิทยา จังหวัดปัตตานี เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและเยี่ยมชมการเรียนการสอนในหลักสูตรสามัญที่ยังคงรักษาไว้ซึ่งอัตลักษณ์และวัฒนธรรมอิสลาม ซึ่งคณะทูตานุทูตได้แลกเปลี่ยนทัศนะกับคณาจารย์และนักเรียน โดยได้ย้ำถึงความสำคัญของการศึกษาสายสามัญที่จะช่วยเปิดโลกทัศน์และเสริมสร้างโอกาสในหน้าที่การงาน ของเยาวชนในอนาคต โดยเฉพาะการเรียนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาในโลกยุคปัจจุบัน
ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีเยาวชนไทยศึกษาในประเทศในตะวันออกกลางและแอฟริกาจำนวนมาก โดยคณะผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตต่าง ๆ ได้ยืนยันความพร้อมที่จะพิจารณาให้ทุนการศึกษาอย่างเปิดกว้างในหลายสาขาไม่ได้จำกัดเฉพาะด้านศาสนาและภาษาอาหรับ อาทิ สาขาการบริหารจัดการธุรกิจ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ การแพทย์ ฯลฯ แก่เยาวชนไทย เพื่อให้เยาวชนสามารถนำความรู้กลับมาพัฒนาชุมชนท้องถิ่นและประเทศชาติได้ต่อไป
ในโอกาสดังกล่าว นักเรียนจากโรงเรียนทั้งสองแห่งได้แสดงความสนใจและความกระตือรือร้นสอบถามเกี่ยวกับการเรียนการสอนในประเทศเหล่านี้ และขั้นตอนการขอรับทุนการศึกษาในสาขาต่าง ๆ รวมถึงได้แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับประสบการณ์การเรียนหลักสูตรสามัญที่มิได้ละเว้นการบ่มเพาะจิตวิญญาณของการเป็นศาสนิกมุสลิมที่ดีด้วย
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ