เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (East Asia Summit - EAS) ครั้งที่ 14 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง โดยมีผู้นำของประเทศสมาชิกอาเซียน กับผู้นำออสเตรเลีย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี นิวซีแลนด์ รัสเซีย และผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมการประชุมด้วย
ที่ประชุมย้ำถึงความสำคัญของ EAS ในการเป็นเวทีระดับผู้นำที่หารือประเด็นเชิงยุทธศาสตร์เกี่ยวกับสันติภาพ ความมั่นคง และความมีเสถียรภาพของภูมิภาคซึ่งมีอาเซียนเป็นแกนกลาง โดย EAS มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจเชิงยุทธศาสตร์ สนับสนุนการหารืออย่างสร้างสรรค์ และยึดหลักนิติธรรมบนพื้นฐานกฎหมายระหว่างประเทศในการจัดการกับประเด็นความท้าทายทั้งในรูปแบบเดิมและรูปแบบใหม่ อาทิ อาชญากรรมข้ามชาติ การก่อการร้าย การค้ามนุษย์ การจัดการภัยพิบัติ และความมั่นคงไซเบอร์
ที่ประชุมรับทราบว่าปัจจุบันภูมิภาคอาเซียนกำลังเผชิญหน้ากับระบบการเมืองระหว่างประเทศที่มีความไม่แน่นอน และภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจในด้านการเมืองและความมั่นคง ที่ประชุมย้ำถึงการสนับสนุนความเป็นแกนกลางของอาเซียน และมุมมองของอาเซียนต่อแนวคิดอินโด-แปซิฟิก (ASEAN Outlook on the Indo-Pacific) พร้อมทั้งได้หารือถึงความร่วมมือด้านต่าง ๆ อาทิ เพื่อเสริมสร้างการยอมรับความแตกต่างในสังคมการต่อต้านการก่อการร้าย ความมั่นคงไซเบอร์ และความมั่นคงทางทะเล
ในด้านเศรษฐกิจ ที่ประชุมได้รับทราบถึงแนวโน้มของการกีดกันทางการค้าโลกที่มีมากขึ้น ในการนี้ จึงได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการส่งเสริมระบบพหุภาคี การค้าเสรี และการบูรณาการทางเศรษฐกิจภายในภูมิภาคมากขึ้น ตลอดจนหารือถึงความเปลี่ยนแปลงจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (4IR) ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership – RCEP) และความร่วมมือเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและความเชื่อมโยง เศรษฐกิจดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรวมถึงนวัตกรรม และการประมงที่ยั่งยืน ในด้านสังคมและวัฒนธรรม ผู้นำได้หารือเกี่ยวกับปัญหาความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล และการจัดการภัยพิบัติ
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาค อาทิ พัฒนาการของกระบวนการสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลี สถานการณ์ในรัฐยะไข่ และทะเลจีนใต้
ที่ประชุมได้รับรองถ้อยแถลงผู้นำ 3 ฉบับ ได้แก่ (1) ถ้อยแถลงผู้นำการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกว่าด้วยการต่อต้านการแพร่ระบาดของยาเสพติดผิดกฎหมาย (2) ถ้อยแถลงผู้นำการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกว่าด้วยความร่วมมือเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ และ (3) ถ้อยแถลงผู้นำการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกว่าด้วยการเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืน
EAS ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2542 โดยได้รับอาณัติให้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการกรุงมะนิลาเพื่อผลักดันปฏิญญากรุงพนมเปญว่าด้วยข้อริเริ่มการพัฒนาของการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ค.ศ. 2018-2022
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ