โครงการส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในประเทศมุสลิม ประจำปี ๒๕๖๓

ข่าวต่างประเทศ Tuesday January 21, 2020 13:28 —กระทรวงการต่างประเทศ

ด้วยเมื่อวันที่ ๘ – ๑๔ มกราคม ๒๕๖๓ กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้จัดโครงการส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในประเทศมุสลิม โดยได้เชิญสื่อมวลชนทั้งสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อสังคมออนไลน์ จากบาห์เรน จอร์แดน กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เยือนไทยเพื่อศึกษาดูงานศักยภาพด้านการท่องเที่ยว การพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน และความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม เพื่อนำข้อมูลไปประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้น

เมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๖๓ นายณัฐภาณุ นพคุณ รองอธิบดีกรมสารนิเทศ ได้เป็นผู้แทนอธิบดีกรมสารนิเทศ กล่าวต้อนรับคณะสื่อมวลชนที่กระทรวงการต่างประเทศ และบรรยายเกี่ยวกับการเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมของประเทศไทยผ่านโครงการต่าง ๆ รวมทั้งความสำเร็จในการเป็นประธานอาเซียน ภายใต้แนวคิดหลัก “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” ซึ่งเน้นความยั่งยืนในทุกมิติ และการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้

ในโอกาสเดียวกัน รองศาสตราจารย์ ดร.ปกรณ์ ปรียากร ประธานคณะทำงานจุฬาราชมนตรี สำนักจุฬาราชมนตรี กล่าวถึงความหลากหลายทางศาสนาและเชื้อชาติที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติและเท่าเทียมภายใต้รัฐธรรมนูญ รวมถึงการที่ไทยเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกอาหารฮาลาลที่ใหญ่ที่สุดในโลก และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มลฤดี สระฏัน นักวิจัยอาวุโสจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาที่ยั่งยืนและเศรษฐกิจพอเพียง สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) กล่าวถึงการใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและรองรับความเปลี่ยนแปลง รวมทั้งเพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนและการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) โดยได้มีการนำไปเผยแพร่ให้หลายประเทศทดลองใช้แก้ปัญหาในประเทศของตนต่อไป นอกจากนี้ นางสาวเสาวลักษณ์ พรวิลาศสิริ นักการทูตชำนาญการ (ที่ปรึกษา) กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา กระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศมุสลิม และการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อาทิ การประกอบธุรกิจในประเทศไทย และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นต้น

คณะสื่อมวลชนได้เยี่ยมชมและรับฟังบรรยาย ณ สถานที่ต่าง ๆ ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม การพัฒนา และธรรมชาติ ได้แก่ พระบรมมหาราชวัง มัสยิดจักรพงษ์ ซึ่งเป็นมัสยิดแห่งแรกในเขตพระนครและสร้างบนที่ดินที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง และโรงพยาบาลพญาไท ๒

เมื่อวันที่ ๑๑ – ๑๓ มกราคม ๒๕๖๓ คณะสื่อมวลชนได้เดินทางไปจังหวัดเชียงรายเพื่อศึกษาดูงาน ด้านการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ซึ่งช่วยให้คณะได้ทราบบทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยในด้านการพัฒนา โดยเฉพาะการแก้ปัญหาความยากจนและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน พร้อมทั้งได้เยี่ยมชมเทศกาล “สีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ ๖” ซึ่งเป็นงานที่เปิดโอกาสให้ชุมชนจำหน่ายสินค้าของตน และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง

เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๓ คณะสื่อมวลชนได้เยี่ยมชมและรับฟังบรรยายสรุปที่พิพิธภัณฑ์หอฝิ่น อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เพื่อรับทราบถึงผลสำเร็จของโครงการพัฒนาดอยตุงฯ ในการแก้ปัญหาการลักลอบปลูกฝิ่น โดยพิพิธภัณฑ์หอฝิ่นได้ค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับฝิ่นและสารเสพติด และการดำเนินการเพื่อแก้ปัญหามาตั้งแต่ปี 2537 โดยได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างองค์ความรู้ให้ประชาชน นอกจากนี้ คณะสื่อมวลชนได้ฟังบรรยายเกี่ยวกับการพัฒนาพันธุ์พืชไทยที่ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ ของมูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อผลิตเป็นเมล็ดพันธุ์สะสมสำรองไว้ เพื่อเป็นเมล็ดพันธุ์พระราชทานแก่ราษฎรในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ และราษฎรทั่วไป ในยามที่เกิดภาวะวิกฤติจากภัยธรรมชาติและพื้นที่ทำกินเสียหาย

ตลอดระยะเวลาของการดำเนินโครงการ คณะสื่อมวลชนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความเป็นพหุสังคมของประเทศไทย แนวทางการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ รวมถึงแนวทางการปรับใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อเป็นเป้าหมายในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยรองอธิบดีกรมสารนิเทศได้กล่าวสรุปว่า ไทยมองเห็นศักยภาพของกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและโอกาสในการเสริมสร้างความร่วมมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอกาสด้านการลงทุนและการศึกษา รวมถึงความร่วมมือทางด้านการทูตระหว่างกัน ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศเชิญสื่อมวลชนจากประเทศมุสลิมเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในประเทศมุสลิมมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ โดยมีสื่อเข้าร่วมโครงการถึงปัจจุบันประมาณ ๑๕๐ คน ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับประเทศไทยและความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมของไทยต่อโลกมุสลิมต่อไป

ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ