กรุงเทพ--12 มี.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก จัดโครงการศึกษาลู่ทางการค้าการลงทุนของไทยในภูมิภาค Kaluga สหพันธรัฐรัสเซีย และประสงค์จะเชิญชวนให้นักธุรกิจและผู้ประกอบการไทยร่วมเดินทางไปยังภูมิภาคดังกล่าวกับคณะสถานเอกอัครราชทูตฯ โดยผู้สนใจเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง แต่สถานเอกอัครราชทูตฯ จะอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการเดินทาง การสำรองที่พัก และการนัดหมายหน่วยงานต่างๆ ในชั้นนี้ มีกำหนดเดินทางในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม-ต้นเดือนมิถุนายน 2551 เป็นเวลา 3 วัน
Kaluga เป็นภูมิภาคที่อยู่ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 180 กิโลเมตรและเป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ซึ่งเน้นการวิจัยด้านพลังงานนิวเคลียร์ เทคโนโลยีอวกาศ หุ่นยนต์ และอุปกรณ์วิทยุ นอกจากนี้ ยังมีบริษัทสำคัญต่าง ๆ เข้าไปตั้งในภูมิภาคฯ อีกเป็นจำนวนมากเพื่อผลิตสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยและส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกกว่า 80 ประเทศ โดยผู้บริหารของภูมิภาคฯ มีนโยบายสนับสนุนนักลงทุนทั้งชาวต่างชาติและชาวรัสเซียอย่างเท่าเทียมกัน จึงได้สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อนักลงทุนและมีกฎหมายคุ้มครองการลงทุนแล้ว
โครงการที่ภูมิภาค Kaluga ให้การสนับสนุนมีหลากหลาย และครอบคลุมหลายประเภทธุรกิจ เช่น ด้านยานยนต์ ซึ่งขณะนี้บริษัท Volkswagen เข้ามาตั้งโรงงานผลิตรถยนต์แล้ว และยังมีบริษัทรถยนต์ชั้นนำอื่น ๆ ให้ความสนใจจะเข้ามาตั้งโรงงานผลิตรถยนต์เช่นเดียวกัน ได้แก่ วอลโว่ เปอร์โยต์ ซีตรอง และมิตซูบิชิ ในขณะเดียวกัน รัฐบาลของภูมิภาคฯ กำลังวางแผนจะจัดตั้งศูนย์ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ (Auto Components Suppliers Park) ขึ้นด้วย ทำให้อีกไม่นานอุตสาหกรรมยานยนต์จะกลายเป็นอุตสาหกรรมหลักของภูมิภาคฯ อุตสาหกรรมหนึ่ง
ด้านการผลิตไม้แปรรูป ภูมิภาค Kaluga ยังมีทรัพยากรป่าไม้อุดมสมบูรณ์ มีไม้ที่โตเลยกำหนดตัดเป็นปริมาณถึง 65 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องจากมีการแปรรูปไม้ไม่เพียงพอต่อความต้องการภายใน จึงต้องการการลงทุนจากต่างประเทศในเรื่องนี้ โดยเฉพาะการผลิตและแปรรูปไม้แบบครบวงจรเพื่อใช้ในการก่อสร้างที่อยู่อาศัย และโดยที่ปัจจุบันที่อยู่อาศัยในภูมิภาค Kaluga ขาดแคลนและมีราคาสูง จำเป็นจะต้องก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพิ่มเติม จึงเป็นโอกาสของธุรกิจด้านการก่อสร้างของไทยด้วย ซึ่งขณะนี้บริษัทก่อสร้างรายใหญ่ของเกาหลีใต้เป็นผู้ครองตลาดในภูมิภาคฯ อยู่ ท้ายที่สุดด้านเกษตรกรรมอันเป็นด้านที่ประเทศไทยคุ้นเคยนั้น ปีที่แล้วมีการเติบโตถึงร้อยละ 7 และกำลังต้องการการลงทุนจากต่างประเทศในด้านอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร เป็นต้น
สำหรับการไปลงทุนในภูมิภาค Kaluga นั้น นักลงทุนของไทยอาจเลือกลงทุนที่เมืองต่าง ๆ ได้หลายเมืองโดยสามารถพิจารณาจากศักยภาพและกฎหมายที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน เป็นต้น ทั้งนี้ เมืองที่มีโครงการขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ได้แก่ Sukhinichi, Lyudinovo, Kirov, Medynya, Maloyaroslavets และ Ferzikovo
ผู้สนใจสามารถอ่านรายละเอียดได้ที่ /business/page2101main.php?id=24016 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโดยตรง ตลอดจนแจ้งความจำนงเข้าร่วมการเดินทางได้ที่นางกุสุมา ธาราสุข ที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก โทรศัพท์ (7495) 208-0817 e-mail: [email protected] หรือ น.ส. กัลย์วนา เหมกมล เจ้าหน้าที่กองสนเทศเศรษฐกิจ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทรศัพท์ 02-643-5000 ต่อ 4007 โทรสาร 02-643-5236 e-mail: [email protected]
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก จัดโครงการศึกษาลู่ทางการค้าการลงทุนของไทยในภูมิภาค Kaluga สหพันธรัฐรัสเซีย และประสงค์จะเชิญชวนให้นักธุรกิจและผู้ประกอบการไทยร่วมเดินทางไปยังภูมิภาคดังกล่าวกับคณะสถานเอกอัครราชทูตฯ โดยผู้สนใจเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง แต่สถานเอกอัครราชทูตฯ จะอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการเดินทาง การสำรองที่พัก และการนัดหมายหน่วยงานต่างๆ ในชั้นนี้ มีกำหนดเดินทางในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม-ต้นเดือนมิถุนายน 2551 เป็นเวลา 3 วัน
Kaluga เป็นภูมิภาคที่อยู่ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 180 กิโลเมตรและเป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ซึ่งเน้นการวิจัยด้านพลังงานนิวเคลียร์ เทคโนโลยีอวกาศ หุ่นยนต์ และอุปกรณ์วิทยุ นอกจากนี้ ยังมีบริษัทสำคัญต่าง ๆ เข้าไปตั้งในภูมิภาคฯ อีกเป็นจำนวนมากเพื่อผลิตสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยและส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกกว่า 80 ประเทศ โดยผู้บริหารของภูมิภาคฯ มีนโยบายสนับสนุนนักลงทุนทั้งชาวต่างชาติและชาวรัสเซียอย่างเท่าเทียมกัน จึงได้สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อนักลงทุนและมีกฎหมายคุ้มครองการลงทุนแล้ว
โครงการที่ภูมิภาค Kaluga ให้การสนับสนุนมีหลากหลาย และครอบคลุมหลายประเภทธุรกิจ เช่น ด้านยานยนต์ ซึ่งขณะนี้บริษัท Volkswagen เข้ามาตั้งโรงงานผลิตรถยนต์แล้ว และยังมีบริษัทรถยนต์ชั้นนำอื่น ๆ ให้ความสนใจจะเข้ามาตั้งโรงงานผลิตรถยนต์เช่นเดียวกัน ได้แก่ วอลโว่ เปอร์โยต์ ซีตรอง และมิตซูบิชิ ในขณะเดียวกัน รัฐบาลของภูมิภาคฯ กำลังวางแผนจะจัดตั้งศูนย์ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ (Auto Components Suppliers Park) ขึ้นด้วย ทำให้อีกไม่นานอุตสาหกรรมยานยนต์จะกลายเป็นอุตสาหกรรมหลักของภูมิภาคฯ อุตสาหกรรมหนึ่ง
ด้านการผลิตไม้แปรรูป ภูมิภาค Kaluga ยังมีทรัพยากรป่าไม้อุดมสมบูรณ์ มีไม้ที่โตเลยกำหนดตัดเป็นปริมาณถึง 65 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องจากมีการแปรรูปไม้ไม่เพียงพอต่อความต้องการภายใน จึงต้องการการลงทุนจากต่างประเทศในเรื่องนี้ โดยเฉพาะการผลิตและแปรรูปไม้แบบครบวงจรเพื่อใช้ในการก่อสร้างที่อยู่อาศัย และโดยที่ปัจจุบันที่อยู่อาศัยในภูมิภาค Kaluga ขาดแคลนและมีราคาสูง จำเป็นจะต้องก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพิ่มเติม จึงเป็นโอกาสของธุรกิจด้านการก่อสร้างของไทยด้วย ซึ่งขณะนี้บริษัทก่อสร้างรายใหญ่ของเกาหลีใต้เป็นผู้ครองตลาดในภูมิภาคฯ อยู่ ท้ายที่สุดด้านเกษตรกรรมอันเป็นด้านที่ประเทศไทยคุ้นเคยนั้น ปีที่แล้วมีการเติบโตถึงร้อยละ 7 และกำลังต้องการการลงทุนจากต่างประเทศในด้านอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร เป็นต้น
สำหรับการไปลงทุนในภูมิภาค Kaluga นั้น นักลงทุนของไทยอาจเลือกลงทุนที่เมืองต่าง ๆ ได้หลายเมืองโดยสามารถพิจารณาจากศักยภาพและกฎหมายที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน เป็นต้น ทั้งนี้ เมืองที่มีโครงการขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ได้แก่ Sukhinichi, Lyudinovo, Kirov, Medynya, Maloyaroslavets และ Ferzikovo
ผู้สนใจสามารถอ่านรายละเอียดได้ที่ /business/page2101main.php?id=24016 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโดยตรง ตลอดจนแจ้งความจำนงเข้าร่วมการเดินทางได้ที่นางกุสุมา ธาราสุข ที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก โทรศัพท์ (7495) 208-0817 e-mail: [email protected] หรือ น.ส. กัลย์วนา เหมกมล เจ้าหน้าที่กองสนเทศเศรษฐกิจ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทรศัพท์ 02-643-5000 ต่อ 4007 โทรสาร 02-643-5236 e-mail: [email protected]
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-