อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ลงนามใน Letter of Understanding ระหว่างกรมความร่วมมือระหว่างประเทศและองค์กรความร่วมมือเพื่อการพัฒนาของลักเซมเบิร์ก เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ใน สปป. ลาว ปี ๒๕๖๓-๒๕๖๘ โดยครอบคลุมความร่วมมือด้านสาธารณสุข อาชีวศึกษาและการอบรมช่างเทคนิค และการพัฒนาท้องถิ่นและชนบท
เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ ที่กระทรวงการต่างประเทศ นางสาวภัทรัตน์ หงษ์ทอง อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้ลงนามใน Letter of Understanding ระหว่างกรมความร่วมมือระหว่างประเทศและองค์กรความร่วมมือเพื่อการพัฒนาของลักเซมเบิร์ก (Luxembourg Development Cooperation -LuxDev) เพื่อความร่วมมือในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ใน สปป. ลาว ระหว่างปี ๒๕๖๓-๒๕๖๘ โดยมี นาย Jean-Paul Senninger เอกอัครราชทูตราชรัฐลักเซมเบิร์กประจำประเทศไทย นายศศิวัฒน์ ว่องสินสวัสดิ์ อธิบดีกรมยุโรป และนายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เข้าร่วมด้วย
Letter of Understanding ฉบับนี้เป็นกรอบในการดำเนินความร่วมมือเพื่อการพัฒนาใน สปป. ลาว ร่วมกันระหว่างไทยและลักเซมเบิร์ก โดยผสมผสานความเชี่ยวชาญของลักเซมเบิร์กและไทยเพื่อร่วมกันแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในสาขาที่ สปป. ลาวต้องการ อาทิ สาธารณสุข อาชีวศึกษาและการอบรมช่างเทคนิค (Technical and Vocational Education and Training) และการพัฒนาท้องถิ่นและชนบท ซึ่งอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศและเอกอัครราชทูตลักเซมเบิร์กประจำประเทศไทยต่างย้ำความสำคัญของความร่วมมือไตรภาคีดังกล่าว ซึ่งเป็นการเริ่มความร่วมมือไตรภาคีครั้งแรกระหว่างสองประเทศ นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตลักเซมเบิร์กประจำประเทศไทยกล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวเป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้ความเชี่ยวชาญของไทย โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการดำเนินโครงการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งมีความสำคัญยิ่งในการรับมือกับสถานการณ์ โควิด-๑๙ ขณะนี้
ความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นการดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชรัฐลักเซมเบิร์กซึ่งได้ลงนามที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๔๒ และในปี ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นปีครบรอบ ๖๐ ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและลักเซมเบิร์ก โดยทั้งสองประเทศแสดงความสนใจที่จะดำเนินความร่วมมือไตรภาคีใน สปป.ลาว และได้จัดส่งคณะสำรวจร่วม (joint fact-finding mission) ของไทยกับลักเซมเบิร์กไปที่ สปป. ลาว เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือไตรภาคีระหว่างวันที่ ๑๘-๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการจัดทำ Letter of Understanding ฉบับนี้
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ