นายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาในการประชุม APEC CEO Dialogues หัวข้อบทบาทอาเซียนในอนาคตของเอเปค (ASEAN?s Place in APEC?s Future) โดยเชิญชวนนักธุรกิจชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกให้ร่วมมือกันฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-๑๙ พร้อมชูศักยภาพของไทยในด้านความเชื่อมโยงรวมถึงการปรับตัวและรับมือกับสถานการณ์โควิด-๑๙ และความมุ่งมั่นของไทยในการเป็นเจ้าภาพเอเปคในปี ๒๕๖๕
เมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ เวลา ๑๔.๓๐ น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุม APEC CEO Dialogues 2020 ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยเจ้าภาพมาเลเซียเชิญนายกรัฐมนตรีร่วมกล่าววิสัยทัศน์ผู้นำในหัวข้อ ?บทบาทอาเซียนในอนาคตของเอเปค หรือ ASEAN?s Place in APEC?s Future?
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนนักธุรกิจชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกให้ร่วมมือกันฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-๑๙ และสร้างเอเชีย-แปซิฟิกที่เข้มแข็ง ยืดหยุ่น และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของเอเปคและอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นด้านความเชื่อมโยงทุกมิติ ทั้งทางกายภาพ กฎระเบียบ และดิจิทัล ความสามารถในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น การแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ และการดำเนินการต่าง ๆ ของทั้งสององค์กรในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนที่เสรีและเปิดกว้าง ซึ่งล่าสุดอาเซียนและคู่เจรจา ทั้ง ๕ ได้ร่วมกันลงนามในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP ซึ่งเป็นความตกลงการค้าเสรีที่ใหญ่เป็นอันดับต้นของโลก
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังชูศักยภาพของไทยในด้านความเชื่อมโยง โดยยกตัวอย่างโครงการ EEC โครงการสะพานไทย และโครงการท่าเรือแหลมฉบังที่มีแผนการเชื่อมโยงกับนานาชาติ รวมถึงการปรับตัวและรับมือกับสถานการณ์โควิด-๑๙ โดยเฉพาะการเป็นผู้ผลิตและส่งออกอาหารรายสำคัญของโลก และการมีระบบสาธารณสุขที่มีความพร้อม และผลักดันให้ทุกฝ่ายสนับสนุนบทบาท MSMEs สตรี เยาวชน และกลุ่มเปราะบางให้มีส่วนร่วมในระบบเศรษฐกิจ ผ่านการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และเพิ่มพูนทักษะด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล โดยประเด็นทั้งหมดนี้มีความเชื่อมโยงกับวาระการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยในปี ๒๕๖๕
การประชุม APEC CEO Dialogues 2020 จัดขึ้นโดยสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค (APEC Business Advisory Council: ABAC) ภายใต้การเป็นเจ้าภาพเอเปคของมาเลเซีย เพื่อเป็นเวทีให้ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและผู้นำภาคธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกร่วมกันหารือในประเด็นที่มีผลกระทบต่อภูมิภาค โดยมีผู้นำที่เข้าร่วม อาทิ ประธานาธิบดีจีน อินโดนีเซีย ชิลี นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์ และมีผู้แทนระดับสูงจากบริษัทเอกชน อาทิ Facebook Microsoft FedEx Axa ExxonMobil และ Petronas รวมทั้งนักวิชาการและสื่อมวลชนชั้นนำ
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ