สรุปการแถลงข่าวประจำสัปดาห์
วันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๐.๐๐ น.
ผ่านการถ่ายทอดสดทาง Facebook กระทรวงการต่างประเทศ
๑. ผลการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน - สหรัฐฯ ครั้งที่ ๓๔
เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๔ นายธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน-สหรัฐฯ ครั้งที่ ๓๔ ผ่านระบบการประชุมทางไกล ที่ประชุมฯ ได้หารือเกี่ยวกับการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างอาเซียนกับสหรัฐฯ ในทุกมิติ โดยเฉพาะการส่งเสริมความร่วมมือในการรับมือและฟื้นฟูจากโควิด-๑๙ ซึ่งสหรัฐฯ ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศสมาชิกอาเซียนแล้วเป็นเงินกว่า ๑๑๒ ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งมีแผนผลักดันการกระจายวัคซีนผ่านกลไก COVAX และการขยายกำลังการผลิตวัคซีนร่วมกับกลุ่มภาคี Quad (สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อินเดีย)
ที่ประชุมฯ ยังได้เน้นย้ำความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อาทิ การฟื้นฟูสีเขียวและการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การส่งเสริมการบูรณาการทางเศรษฐกิจ การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมทางเพศ และการพัฒนาทุนมนุษย์
ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวนำภายใต้หัวข้อ ?สิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ? โดยเสนอให้มีการส่งเสริมความร่วมมือและการ ?ลงมือทำ? (actions) ใน ๓ เรื่อง ได้แก่ (๑) การบรรลุเป้าหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (๒) การส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (๓) การส่งเสริมความสมดุลระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ โดยเสนอโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (BCG) เป็นแนวทางการดำเนินการ และศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นเวทีขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างกัน
๒. สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-๑๙ ในอินเดียและมาตรการการดูแลช่วยเหลือคนไทยในอินเดีย
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี ให้การช่วยเหลือคนไทยในอินเดียท่ามกลางสถานการณ์โควิด-๑๙ อย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี ได้จัดถุงยังชีพ ประกอบด้วยข้าวสารอาหารแห้งและเวชภัณฑ์ที่จำเป็น มอบให้แก่คนไทยในพื้นที่กาซิอาบาด (Ghaziabad) โดยเอกอัครราชทูต ภัทรัตน์ หงษ์ทอง ได้เยี่ยมเยียนและมอบสิ่งของแก่คนไทยในพื้นที่
สำหรับการนำคนไทยกลับบ้าน ในเดือนพฤษภาคมนี้ จะมีเที่ยวบินสำหรับนำคนไทยในอินเดียกลับบ้าน อีก ๒ เที่ยวบินออกเดินทางจากกรุงนิวเดลี ได้แก่ ในวันที่ ๑๕ พฤษภาคม จะมีผู้โดยสารคนไทย ๑๕๐ คน และเที่ยวบินในวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ซึ่งได้ขยายเวลาลงทะเบียนถึงวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๔
นอกจากนี้ สำหรับเที่ยวบินในเดือนมิถุนายน สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจนไน จะจัดเที่ยวบินจากเมืองเจนไน ในวันที่ ๔ มิถุนายน โดยได้เปิดลงทะเบียนระหว่างวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๘.๐๐ น. (เวลาท้องถิ่นอินเดีย) สามารถติดตามรายละเอียดจาก Facebook : ?สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจนไน?
๓. มาตรการชั่วคราวระงับการออกหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทย (COE) และการตรวจลงตราแก่ชาวต่างชาติจากปากีสถาน บังกลาเทศ และเนปาล เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ จากเชื้อกลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกที่อินเดีย
ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-๑๙ (ศปก.ศบค.) เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ได้หารือกรณีการพบเชื้อกลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกที่อินเดียในผู้เดินทางจากปากีสถาน และได้มีมติให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาระงับการออก COE สำหรับชาวต่างชาติที่มีต้นทางหรือมีถิ่นพำนักจากประเทศที่พบเชื้อกลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกที่อินเดีย
กระทรวงการต่างประเทศได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ระงับการออก COE และการตรวจลงตราสำหรับชาวต่างชาติที่มีต้นทางหรือมีถิ่นพำนักในปากีสถาน บังกลาเทศ และเนปาล ตั้งแต่วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๔ เพิ่มเติมจากอินเดียที่มีประกาศก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ชาวต่างชาติที่เดินทางออกจาก ๔ ประเทศข้างต้นและเปลี่ยนเครื่อง (Transit) ในประเทศอื่น หรือไปท่องเที่ยวหรือผ่านทางไปยัง ๔ ประเทศข้างต้น จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศไทยเช่นกัน
มาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการชั่วคราวสำหรับชาวต่างชาติทุกสัญชาติจาก ๔ ประเทศดังกล่าว ไม่ได้ห้ามคนไทยแต่อย่างใด
คนไทย นักการทูตต่างชาติที่มีจุดประสงค์เพื่อปฏิบัติงานและครอบครัว ตลอดจนชาวต่างชาติผู้ที่มีถิ่นพำนักถาวรในประเทศไทย ยังสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ แต่จะต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยเข้ารับการกักตัวเป็นเวลา ๑๔ วัน
ขอยืนยันว่าเรามีมาตรที่ปลอดภัยและรัดกุมในการดูแลการเดินทางกลับเข้าไทยของคนไทยที่ติดเชื้อโควิด-๑๙ โดยเฉพาะการขนย้ายผู้ป่วยระหว่างเครื่องบิน-โรงพยาบาล
๔. การมอบเงินและอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่รัฐบาล สปป. ลาว เพื่อสนับสนุนการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙
เมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔ นายเจษฎา กตเวทิน เอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ เป็นผู้แทนรัฐบาลไทยและชาวไทยในการส่งมอบเงินช่วยเหลือ พร้อมทั้งอุปกรณ์การแพทย์ เพื่อสนับสนุนการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ให้แก่รัฐบาลแห่ง สปป.ลาว โดยมีนายบุนแฝง พูมมะไลสิด รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและรองหัวหน้าคณะเฉพาะกิจเพื่อป้องกัน ควบคุม และแก้ไขการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ เป็นผู้แทนรับมอบ
การให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นการร่วมแรงร่วมใจจากทุกภาคส่วนของไทย โดยแบ่งออกเป็นความช่วยเหลือจากภาครัฐ ได้แก่ เงินและอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ เตียงผู้ป่วย หน้ากากอนามัย ชุด PPE และตู้ความดันบวกสำหรับการตรวจเชื้อเคลื่อนที่ มูลค่ารวม ๑๒,๘๘๐,๐๐๐ บาท หรือประมาณ ๔,๑๗๕ ล้านกีบ
นอกจากนี้ ภายในเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๔ รัฐบาลไทยจะสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์เพิ่มเติมอีก อาทิ การมอบชุด PPE การติดตั้งเครื่องตรวจหาเชื้อโควิด-๑๙ อุปกรณ์การแพทย์ประเภทต่าง ๆ และจะจัดทำโครงการให้คำปรึกษาทางการแพทย์ออนไลน์ เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพในการตรวจหาเชื้อ และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างแพทย์ไทย-ลาว
ในส่วนของภาคเอกชน สมาคมไทย-ลาวเพื่อมิตรภาพได้สนับสนุนชุด PPE และหน้ากาก N95 มูลค่ารวม ๑๐๐,๐๐๐ บาท โดยมอบผ่านสถานเอกอัครราชทูต สปป.ลาว ประจำประเทศไทย นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ เวียงจันทน์ และทีมประเทศไทย เป็นสื่อกลางร่วมกับสมาคมนักธุรกิจไทยใน สปป.ลาว สภาธุรกิจไทย-ลาว ภาคเอกชนไทย พร้อมทั้งประชาชนชาวไทยที่อาศัยอยู่ใน สปป.ลาว ในการระดมเงินและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นรวมมูลค่าราว ๓,๔๖๐,๐๐๐ บาท หรือประมาณ ๑,๐๐๐ ล้านกีบ และได้มอบให้แก่รัฐบาล สปป.ลาว เมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ด้วย
การให้ความสนับสนุนประเทศเพื่อนบ้านและมิตรประเทศเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-๑๙ ของไทยจะมีส่วนช่วยการป้องกันการระบาดในประเทศไทยด้วย เพราะโรคระบาดไม่มีเขตแดนสามารถติดต่อกันได้เสมอ
๕. สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา และการให้ความช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่และผู้หนีภัยความไม่สงบ/การสู้รบจากเมียนมา
ปัจจุบัน สถานการณ์ในฝั่งเมียนมายังมีพัฒนาการที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง คณะทำงานของ จ. แม่ฮ่องสอน ได้ชี้แจงให้ผู้หนีภัยความไม่สงบ/การสู้รบจากเมียนมาที่ข้ามมาฝั่งไทยก่อนหน้านี้ได้ทราบถึงข้อเท็จจริงของสถานการณ์ และเกิดความมั่นใจในความปลอดภัย ส่งผลให้มีผู้หนีภัยฯ เดินทางกลับไปยังฝั่งเมียนมาเพื่อเตรียมการเพาะปลูกในฤดูกาลต่อไป ทำให้มีชาวเมียนมาที่ยังพักในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ๒ แห่ง ใน อ.แม่สะเรียง คงเหลือในขณะนี้ ๘๐ คน อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีการตรวจพบผู้หนีภัยฯ เพิ่มเติม ทางด้านเหนือของ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จำนวนอีก ๑,๗๖๓ คน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกองกำลังในพื้นที่กำลังจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือต่อไป
ส่วนราษฎรไทยที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบในประเทศเมียนมา ซึ่งเข้าพักในพื้นที่รวบรวมพลเรือนได้เดินทางกลับภูมิลำเนาทั้งหมดแล้ว ถือว่าสถานการณ์ขณะนี้เข้าขั้นปกติ
อย่างไรก็ดี สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมายังมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางการไทยได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้ให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาที่ข้ามมาฝั่งไทยชั่วคราวในช่วงที่ผ่านมา มาโดยตลอด และเมื่อสถานการณ์มีความปลอดภัยมากขึ้นแล้ว ผู้หนีภัยฯ สามารถเดินทางกลับไปได้
ทางการไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพตลอดแนวชายแดนไทย-เมียนมา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณชายแดน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อประชาชนของไทยและเมียนมา
๖. ขอเชิญชวนเยาวชนไทยส่งผลงานเข้าร่วมการประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์การเป็นเจ้าภาพเอเปคปี ๒๕๖๕ ของไทย
เมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๔ กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมสารนิเทศและกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ร่วมกับคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้จัดการถ่ายทอดสดการชี้แจงโจทย์การประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์การเป็นเจ้าภาพเอเปคปี ๒๕๖๕
กระทรวงการต่างประเทศให้ความสำคัญของการสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเยาวชนในการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคของไทยครั้งนี้ จึงกำหนดให้ผู้ที่สามารถส่งผลงาน
เข้าประกวดออกแบบโลโก้เอเปคเป็นเยาวชนไทย อายุไม่เกิน ๒๕ ปี โดยเยาวชนที่สนใจสามารถสมัครเป็นแบบเดี่ยวหรือแบบคู่ และส่งผลงานมาทางเว็บไซต์ https://forms.gle/nP1n2Jys9cAPGqjj8 ระหว่างวันที่ ๑ พฤษภาคม - ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๔ ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า ๔๕๐,๐๐๐ บาท
ในเดือนสิงหาคม ๒๕๖๔ จะมีการนำเสนอผลงานที่ผ่านการคัดเลือกต่อคณะกรรมการระดับชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อตัดสินรางวัลชนะเลิศ
เยาวชนที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์การเป็นเจ้าภาพเอเปคปี ๒๕๖๕ ของไทยได้ที่เว็บไซต์ที่ปรากฏบนหน้าจอ และติดตามรับชมย้อนหลังการถ่ายทอดสดการชี้แจงโจทย์การประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์ ได้ที่ Facebook กระทรวงการต่างประเทศ
๗. ประชาสัมพันธ์
๗.๑ รายการ Spokesman Live!!!
ในวันที่ ๑๔ พ.ค. ๒๕๖๔ เวลา ๑๕.๓๐-๑๖.๐๐ น. ขอเชิญติดตามรายการคุยรอบโลกกับโฆษก กต. - Spokesman Live!!! ซึ่งจะสัมภาษณ์นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หัวข้อ "ก้าวใหม่แห่งการขับเคลื่อนโลจิสติกส์ไทย ผ่านความร่วมมือกับต่างประเทศ"
สามารถติดตามชมได้ที่ Facebook ?กระทรวงการต่างประเทศ? และ ?Saranrom Radio?
๗.๒ รายการบันทึกสถานการณ์ และ MFA Update
วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ พ.ค. ๒๕๖๔ เวลา ๐๘.๓๐ - ๐๘.๔๕ น. รายการ ?บันทึกสถานการณ์? ทาง FM 5 (ภาษาไทย) ได้สัมภาษณ์นายปาณิดล ปัจฉิมสวัสดิ์ ผู้อำนวยการกองรับรอง กรมพิธีการทูต หัวข้อ ?การรับรองการเยือนบุคคลสำคัญต่างประเทศ ในยุคความปกติวิถีใหม่ (New Normal)? สามารถรับฟังย้อนหลังได้ที่ Facebook ?สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย?
ในวันศุกร์ที่ ๑๔ พ.ค. ๒๕๖๔ เวลา ๐๘.๐๕ รายการ ?MFA Update? FM 0 (ภาษาอังกฤษ) จะสัมภาษณ์นายไพสิฐ บุญปาลิต อุปทูต ณ กรุงพริทอเรีย หัวข้อ ?Thailand-South Africa Relations in the midst of Covid-19? สามารถติดตามรับฟังสด หรือรับฟังย้อนหลังได้ทาง Facebook ?FM 88 Radio Thailand English?
๗.๓ การให้บริการของสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว และกองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมการกงสุล และสำนักงานสัญชาติฯ MRT คลองเตยในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ ขอแจ้งการปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิด ของสำนักงานหนังสือเดินทางทั่วประเทศ ดังนี้
(๑) สำนักงานหนังสือเดินทางฯ MRT คลองเตย เปิดให้บริการ จันทร์-ศุกร์ เวลา ๐๘.๓๐ - ๑๖.๓๐ น.
(๒) สำนักงานหนังสือเดินทางฯ บางใหญ่ และสุราษฎร์ธานี เปิดให้บริการ จันทร์-ศุกร์ เวลา ๑๑.๐๐- ๑๘.๐๐ น.
(๓) สำนักงานหนังสือเดินทางฯ มีนบุรี และสำนักงานหนังสือเดินทางฯ ธัญบุรี ยังคงปิดให้บริการเป็นการชั่วคราว ประชาชนที่พักอาศัยในบริเวณใกล้เคียงสามารถเข้ารับบริการที่กรมการกงสุล หรือสำนักงานหนังสือเดินทางฯ ศรีนครินทร์ ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงได้
(๔) สำนักงานหนังสือเดินทางฯ สาขาอื่น ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ
นอกจากนี้ กองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมการกงสุล และสำนักงานสัญชาติฯ MRT คลองเตย ได้กำหนดรับคำร้องและปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิด เป็นการชั่วคราว สามารถตรวจสอบรายละเอียดเวลาเปิดทำการเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์และ Facebook ของกรมการกงสุล
๗.๔ งานเทศกาลไทยออนไลน์ของสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา กำหนดจัดงานเทศกาลไทย ?Amazing Thai Festival Online, Osaka 2021? ในวันอาทิตย์ที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๔
การจัดงานจะเป็นการถ่ายทอดสดผ่านระบบออนไลน์ โดยจะเชิญผู้ชมท่องเที่ยวแบบออนไลน์ไปกับ ?บีม เซนเซย์? และ ?อิซากะซัง? Youtuber ชื่อดัง ที่จะพาเที่ยวชม จ. สมุทรสงคราม สัมผัสบรรยากาศตลาดน้ำอัมพวา
นอกจากนี้ ยังมีนักแสดงและนักร้องหนุ่ม ?กั้ง กรณ์? จะพาผู้ชมไปรู้จักกับต้นกำเนิดของมวยไทยที่ จ. พระนครศรีอยุธยา และพบกับ ๒ นักแสดงจาก SOTUS: The Series ?คริสและสิงโต? ที่จะมาร่วมมอบความบันเทิงทั้ง ทอล์คโชว์ ร้องเพลง และเล่นเกมส์สดๆ จากประเทศไทย ถ่ายทอดไปยังผู้ชมในญี่ปุ่นและผู้ชมทั่วโลก
ผู้สนใจสามารถติดตามรับชมได้ในวันอาทิตย์ที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๑. ๐๐ - ๑๓.๔๕ น. (เวลาประเทศไทย) ซึ่งจะถ่ายทอดสดผ่าน Facebook: ?Thai Festival Osaka Official? และช่อง Youtube ?Amazing Thailand JP?
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ