รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-รัสเซีย สมัยพิเศษ เนื่องในโอกาสครบรอบ ๒๕ ปี ความสัมพันธ์คู่เจรจาอาเซียน-รัสเซีย ย้ำความสำคัญของความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีนและยารักษาโรคโควิด-๑๙ โดยส่งเสริมให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางการผลิตและกระจายวัคซีนของรัสเซียในภูมิภาค รวมทั้งการส่งเสริมความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-รัสเซีย สมัยพิเศษ ในโอกาสครบรอบ ๒๕ ปี ความสัมพันธ์คู่เจรจาอาเซียน-รัสเซีย ในปี ๒๕๖๔ ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีนาง Retno Lestari Priansari Marsudi รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ในฐานะประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-รัสเซีย เป็นประธานการประชุมร่วมกับนาย Sergey Lavrov รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย และมีรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนตลอดจนเลขาธิการอาเซียน เข้าร่วม
ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับรัสเซียตลอด ๒๕ ปีที่ผ่านมา และทิศทางความร่วมมือในอนาคตในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะความร่วมมือด้านสาธารณสุขเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ และความร่วมมือในสาขาที่มีศักยภาพ เพื่อฟื้นฟูและส่งเสริมให้ทั้งสองภูมิภาคเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์โลกและภูมิภาค รวมทั้งความร่วมมือที่สำคัญต่าง ๆ อาทิ ความร่วมมือด้านความมั่นคง ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ความร่วมมือด้านการจัดการภัยพิบัติและการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน ตลอดจนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ และด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการฯ เน้นย้ำความสำคัญของความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีนและยารักษาโรคโควิด-๑๙ โดยส่งเสริมให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางการผลิตและกระจายวัคซีนของรัสเซีย
ในภูมิภาค รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในบริบทของการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเชิญชวนให้รัสเซียร่วมมือกับอาเซียนในด้านพลังงานทางเลือกและพลังงานหมุนเวียนที่รัสเซียมีความเชี่ยวชาญ ภายใต้โมเดลเศรษฐกิจ BCG
การประชุมครั้งนี้ตอกย้ำความสำคัญของความเป็นแกนกลางของอาเซียนในสถาปัตยกรรมภูมิภาคและบทบาทที่แข็งขันของรัสเซียในกลไกที่อาเซียนมีบทบาทนำซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับหุ้นส่วนต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ และสร้างความเข้มแข็งให้กับภูมิภาคเพื่อรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ในอนาคต
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ