กระทรวงการต่างประเทศผลักดันความร่วมมือรูปธรรม พร้อมส่งเสริมการยกระดับความสัมพันธไทย-ฝรั่งเศสสู่หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ในการประชุม Political Consultations ไทย-ฝรั่งเศส
กระทรวงการต่างประเทศไทย และกระทรวงกิจการยุโรปและการต่างประเทศฝรั่งเศส ร่วมผลักดันความร่วมมือรูปธรรมในด้านต่าง ๆ อาทิ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green - BCG Economy) เทคโนโลยีและนวัตกรรม สาธารณสุข การท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อม พร้อมเร่งรัดให้มีการจัดทำโร้ดแมปเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ระหว่างการประชุม Political Consultations
เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๔ นายดุสิต เมนะพันธุ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุม Political Consultations ไทย-ฝรั่งเศส ครั้งที่ ๓ ผ่านระบบการประชุมทางไกล ร่วมกับนางอานน์ เกเกว็น (Mrs. Anne Gueguen) รองปลัดกระทรวงกิจการยุโรปและการต่างประเทศฝรั่งเศส โดยมีนางจุฬามณี ชาติสุวรรณ อธิบดีกรมยุโรป เป็นผู้ดำเนินการประชุมร่วมกับฝ่ายฝรั่งเศส และมีนายศรัณย์ เจริญสุวรรณ เอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส และนายตีแยรี มาตู (Mr. Thierry Mathou) เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เข้าร่วม
ทั้งสองฝ่ายได้หารือสาขาความร่วมมือทวิภาคี อาทิ ความร่วมมือด้านวัคซีนโควิด-๑๙ การสาธารณสุข ความมั่นคง การป้องกันประเทศ ความปลอดภัยทางถนน เศรษฐกิจการค้าและการลงทุน โดยเฉพาะสาขาระบบโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคม การท่องเที่ยว รวมถึงการเปิดประเทศ อาทิ Phuket Sandbox ความร่วมมือด้านวิชาการ วิทยาศาสตร์ วิจัยและเทคโนโลยี อาชีวศึกษา และเทคโนโลยีอวกาศ รวมถึงเห็นพ้องกันในการจัดทำโร้ดแมปความสัมพันธ์ไทย-ฝรั่งเศส ปี ค.ศ. ๒๐๒๑-๒๐๒๓ ที่มีความทะเยอทะยาน เป็นรูปธรรม และสามารถปฏิบัติได้จริง เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ภายในปี ๒๕๖๖
ที่ประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลพัฒนาการล่าสุดด้านการเมืองและเศรษฐกิจในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ทัศนะต่อโอกาสและความท้าทายในยุคหลังโควิด-๑๙ ของทั้งสองประเทศ รวมถึงบทเรียนจากสถานการณ์โควิด-๑๙ โดยฝ่ายฝรั่งเศสเสนอแนวคิด One Health Initiative เพื่อผลักดันความร่วมมือด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งได้หารือความหลากหลายทางชีวภาพ ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาและความร่วมมือไตรภาคี โดยเฉพาะการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจใหม่ Bio-Circular-Green (BCG) ของไทย เพื่อให้เกิดการฟื้นฟูที่ยั่งยืนและมีความเข้มแข็งในโลกยุคหลังโควิด-๑๙
ทั้งสองฝ่ายยังแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นต่อประเด็นภูมิภาคและพหุภาคี อาทิ บทบาทของไทยและอาเซียน ในสถานการณ์เมียนมา แนวคิดอินโด-แปซิฟิก ซึ่งฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกในอียูที่ได้เผยแพร่ยุทธศาสตร์ต่อภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความเท่าเทียมทางเพศ การฟื้นฟูการเจรจาการค้าเสรีระหว่างไทยและอียู และการเจรจากรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้านระหว่างไทยและอียู
ฝ่ายไทยได้แสดงความพร้อมที่จะต้อนรับคณะฝ่ายฝรั่งเศสในการประชุม Political Consultations ไทย-ฝรั่งเศส ครั้งที่ ๔ ในปี ๒๕๖๕ ที่ประเทศไทย
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ