ผู้แทนพิเศษรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมุ่งกระชับความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับ OECD ผลักดันโมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนและสมดุล ในการประชุม OECD SEARP ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๒
เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ นางพรพิมล กาญจนลักษณ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะผู้แทนพิเศษของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมการประชุมขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development: OECD) ภายใต้โครงการ Southeast Asia Regional Programme (SEARP) ระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๒ ซึ่งจัดขึ้นในหัวข้อ ?Human-centred future: Partnership for a smarter, greener, and more inclusive ASEAN? ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี
ในโอกาสนี้ ผู้แทนพิเศษฯ ได้กล่าวเปิดการประชุมฯ ในฐานะประธานร่วมของ OECD SEARP ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ และเลขาธิการ OECD โดยไทยมุ่งกระชับความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับ OECD ผลักดันโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG) พร้อมเสนอ ๓ แนวทาง
เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและสมดุล ได้แก่ (๑) ส่งเสริมการพัฒนาความเชื่อมโยงดิจิทัล อำนวยความ สะดวกการไหลเวียนของข้อมูลข้ามพรมแดน และลดความเหลื่อมล้ำด้านดิจิทัล (๒) ส่งเสริมวาระสีเขียวของอาเซียน เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ (๓) ส่งเสริมการพัฒนาทุนมนุษย์เพื่อการฟื้นฟูหลังจากโควิด-๑๙
นอกจากนี้ ผู้แทนพิเศษฯ ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่าง OECD กับ ASEAN ซึ่งจะใช้เป็นพื้นฐานของการสร้างความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งระหว่างกัน และได้ร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ร่วม (Joint Communiqu?) ระดับรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเอกสารแสดงความมุ่งมั่นของประเทศสมาชิกโครงการ SEARP ที่จะร่วมมือกันเพื่อการฟื้นตัวอย่างยั่งยืนและทั่วถึง
อนึ่ง โครงการ OECDSEARP ริเริ่มขึ้นในปี ๒๕๕๗ โดยมีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนการรวมตัวของอาเซียนและส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง OECD กับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยไทยและเกาหลีใต้เป็นประธานร่วมมาตั้งแต่ปี ๒๕๖๑ ในการประชุมครั้งนี้ ไทยและเกาหลีใต้ได้ส่งมอบตำแหน่งประธานร่วม SEARP ให้แก่ ออสเตรเลียและเวียดนาม โดยตลอดเวลา ๔ ปีที่ผ่านมาไทยและเกาหลีใต้ได้ผลักดันให้เกิดความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของภูมิภาค เช่น ความร่วมมือด้านการฟื้นฟูสีเขียว การลดความเหลื่อมล้ำด้านดิจิทัล และการฟื้นฟูการท่องเที่ยว
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ