เมื่อวันที่ ๒๓ พ.ค. ๒๕๖๕ นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมและรับตำแหน่งประธานการประชุมประจำปีของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (เอสแคป) ระหว่างวันที่ ๒๓ - ๒๗ พ.ค. ๒๕๖๕ ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ และผ่านระบบการประชุมทางไกลภายใต้หัวข้อหลัก ?วาระร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนในเอเชียและแปซิฟิก? โดยย้ำความสำคัญของเอสแคปในการเป็นเวทีสะท้อนประเด็นที่ภูมิภาคให้ความสำคัญ และเป็นกลไกที่ประสานการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับภูมิภาคกับอนุภูมิภาค รวมทั้งเชื่อมโยงกับคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติซึ่งไทยเป็นสมาชิก เพื่อให้การดำเนินการในทุกระดับเกื้อกูลกัน โดยในการประชุมฯ ปีนี้ซึ่งครบรอบ ๗๕ ปีการก่อตั้งเอสแคป มีนายอับดุลเลาะฮ์ ชะฮีด ประธานสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ ๗๖ นายคอลเลน วิกเซน เคลาพิเล ประธานคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ และผู้แทนระดับสูงจากหลายประเทศสมาชิกเดินทางมาไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมด้วยตนเอง อาทิ เวียดนาม อินโดนีเซีย เติร์กเมนิสถาน กัมพูชา รัสเซีย สปป. ลาว อินเดีย ญี่ปุ่น
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีมีถ้อยแถลงพิเศษผ่านวีดิทัศน์ในช่วงพิธีเปิดการประชุมฯ โดยย้ำถึงการเติบโตอย่างสมดุล มีภูมิต้านทาน รอบด้านและครอบคลุม ความสำคัญของการพัฒนาคน การพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเป็นแนวทางการพัฒนาในยุค ?Next Normal? ซึ่งไทยมีหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหัวใจของการพัฒนาประเทศและขับเคลื่อนผ่านโมเดลเศรษฐกิจ BCG พร้อมกันนี้ ไทยมุ่งหวังให้เอสแคปเป็นองค์กรที่คาดการณ์วิกฤตเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับประเทศสมาชิกในการรับมือกับความท้าทายในอนาคต และไทยพร้อมเป็นหุ้นส่วนที่สร้างสรรค์และสนับสนุนเอสแคปในการเสริมสร้างความร่วมมือและขับเคลื่อนวาระร่วมกันเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาค
ทั้งนี้ โอกาสครบรอบ ๗๕ ปีการก่อตั้งเอสแคป และ ๗๕ ปีการเป็นสมาชิกสหประชาชาติของไทย นายวิชาวัฒน์ฯ เป็นผู้แทนรัฐบาลไทยมอบภาพสีน้ำมัน ?ศาลาสันติธรรม? ให้กับเลขาธิการบริหารเอสแคป เพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสดังกล่าว และเพื่อแสดงถึงการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของไทยในฐานะประเทศเจ้าภาพของเอสแคป นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าภาพร่วมกับเอสแคปจัดงานเลี้ยงรับรองเพื่อเป็นเกียรติแก่คณะผู้แทนประเทศ องค์การระหว่างประเทศ และภาคส่วนต่าง ๆ ที่เข้าร่วมการประชุมฯ
อนึ่ง ศาลาสันติธรรม เป็นอาคารที่รัฐบาลไทยมอบให้กับเอสแคปเพื่อใช้เป็นอาคารที่ทำการ เมื่อปี ๒๔๙๗ (ค.ศ. ๑๙๕๔) ภายหลังจากที่เอสแคปย้ายสำนักงานจากนครเซี่ยงไฮ้มากรุงเทพฯ เมื่อปี ๒๔๙๒ (ค.ศ. ๑๙๔๙) และในโอกาสครบรอบ ๗๕ ปีการก่อตั้งเอสแคปในปีนี้ เอสแคปได้ประกาศเปลี่ยนชื่อศูนย์การประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ เป็นศูนย์การประชุมสหประชาชาติ ศาลาสันติธรรม กรุงเทพฯ เพื่อรำลึกถึงอาคารที่ทำการที่รัฐบาลไทยมอบให้ดังกล่าว
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ