ในช่วงสัปดาห์ที่สองของการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ ๓ และการประชุมที่เกี่ยวข้องที่ จ.เชียงใหม่ หลายคณะทำงานของเอเปคจะเร่งหารือเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจในยุคหลังโควิด-๑๙ อย่างยั่งยืน เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุนที่เสรีและเปิดกว้างของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ไทยในฐานะเจ้าภาพเอเปคปี ๒๕๖๕ จะผลักดันภายใต้หัวข้อหลัก ?เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล? ที่มีแนวคิดเศรษฐกิจ BCG เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อน
หนึ่งในประเด็นสำคัญของการประชุมครั้งนี้ คือ การสานต่อผลลัพธ์ของการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปคเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ในการนำประเด็นความตกลงเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (FTAAP) มาหารือใหม่ในบริบทยุคหลัง โควิด-๑๙ โดยผู้เชี่ยวชาญของเอเปคจะร่วมหารือกันในการประชุมคณะกรรมการการค้าและการลงทุน ในวันที่ ๒๖-๒๗ สิงหาคม และร่วมกันจัดทำแผนงานเพื่อให้มีการหารือเรื่อง FTAAP ต่อเนื่องไปอีกหลายปี โดยมีเป้าหมายจะเสนอแผนงานดังกล่าวให้ที่ประชุมรัฐมนตรีเอเปคให้ความเห็นชอบในช่วงสัปดาห์ผู้นำเดือนพฤศจิกายนต่อไป แผนงาน FTAAP จะถือเป็นหนึ่งในผลงานสำคัญของไทยในฐานะเจ้าภาพเอเปค ในการวางแนวทางการสานต่อการหารือเรื่อง FTAAP ให้ต่อเนื่องในระยะยาวเพื่อสร้างเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่เปิดเสรีและกว้าง เพิ่มโอกาสด้านการค้าการลงทุนให้คนทุกกลุ่มอย่างครอบคลุม
เพื่อเตรียมความพร้อมให้สมาชิกเอเปคมีศักยภาพเท่าทันพัฒนาการของ FTAAP ในอนาคต คณะกรรมการด้านการค้าและการลงทุนยังวางแผนจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้และขีดความสามารถให้แก่เขตเศรษฐกิจสมาชิกในประเด็นสำคัญต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการรวมตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค เช่น บทบัญญัติเกี่ยวกับแรงงานในความตกลงการค้าเสรี/ความตกลงการค้าระดับภูมิภาค กฎระเบียบเกี่ยวกับการค้าขยะมูลฝอยเพื่อความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ การส่งเสริมให้ MSMEs มีส่วนร่วมใน e-commerce ผ่านกระบวนการกำกับดูแลการขนส่งสินค้าที่มีมูลค่าต่ำ เป็นต้น ซึ่งการอบรมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ องค์ความรู้ และแนวปฏิบัติที่ดีของเขตเศรษฐกิจสมาชิกจะเป็นประโยชน์ในการ ลดช่องว่างและเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับ FTAAP ในอนาคตให้แก่สมาชิกเอเปค อย่างต่อเนื่อง
กลไกการจัด workshop และการเสวนาเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนการทำงานของเอเปคในฐานะแหล่งบ่มเพาะทางความคิด และเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนานโยบาย ยุทธศาสตร์ และเป้าหมายสำคัญ ๆ ในเอเปค โดยในครั้งนี้ คณะทำงานต่าง ๆ ได้จัดการหารือในประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและครอบคลุม โดยเชิญผู้แทนจากภาควิชาการ ภาคเอกชน และผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมด้วย อาทิ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจัด workshop เพื่อหารือแนวทางการกำหนดยุทธศาสตร์ภาครัฐเพื่อดึงดูดการลงทุนสีเขียวจากต่างชาติและส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน กลุ่มงานด้านบริการจัดการหารือเพื่อส่งเสริมบทบาทของสตรีในภาคบริการ และจัดการหารือร่วมระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และรับฟังความท้าทายของธุรกิจในภาคบริการโลจิสติกส์ โดยเฉพาะธุรกิจการรับ-ส่งพัสดุ การขนส่งทางเรือ-ทางอากาศ และการบริหารจัดการท่าเรือ เป็นต้น การถอดบทเรียนจากการเสวนาเหล่านี้จะช่วยให้เอเปคเข้าใจปัญหาจากประสบการณ์ตรงของภาคธุรกิจ เพื่อให้สามารถวางแนวทาง นโยบาย และเป้าหมายที่ตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการได้อย่างตรงจุด
การผลักดันเป้าหมายเรื่อง ?Open? หรือการเปิดโอกาสด้านการค้าการลงทุนเป็นหนึ่งในพันธกิจสำคัญของไทยในฐานะเจ้าภาพเอเปค ๒๕๖๕ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ปุตราจายา ค.ศ. ๒๐๔๐ ที่มุ่งสร้างประชาคมเอเชีย-แปซิฟิกให้ เปิดกว้าง มีพลวัต ยืดหยุ่น และมีสันติภาพ ซึ่งเป็นภารกิจที่สามารถต่อยอดไปเป็นแนวนโยบายที่เอื้อประโยชน์โดยตรงต่อภาคธุรกิจของภูมิภาคในทุกระดับอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ