เมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๕ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นเจ้าภาพการหารือของ Group of Friends of Universal Health Coverage and Global Health ครั้งที่ ๓ ในหัวข้อ ?Investment in Health Systems Strengthening for Universal Health Coverage through a Primary Health Care-Oriented Approach? ร่วมกับ Group of Friends of Universal Health Coverage and Global Health องค์การอนามัยโลก สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ UHC2030 และ UN Foundation ณ คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก
การประชุมฯ เป็นเวทีหารือเกี่ยวกับผลกระทบของโควิด-๑๙ ต่อการให้บริการด้านสาธารณสุขภายใต้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (UHC) ความร่วมมือในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม การเร่งความคืบหน้าด้าน ??UHC ตลอดจนการระบุวิสัยทัศน์ร่วมของกลุ่มฯ เพื่อส่งเสริมสุขภาพของประชาชนทุกคนและความมั่นคงด้านสุขภาพระดับโลก
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เสนอแนวทางพัฒนาให้ UHC พร้อมรับมือกับความท้าทายด้านสุขภาพในมิติใหม่ ๆ อาทิ สังคมผู้สูงอายุ และโรคอุบัติใหม่ โดยเน้น ๓ เรื่องหลัก ดังนี้
(๑) ย้ำความสำคัญของการลงทุนใน UHC ซึ่งเป็นรากฐานของระบบสุขภาพที่เข้มแข็งและสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ และเป็นมาตรการคุ้มครองทางสังคมที่มีความคุ้มทุนเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพ
(๒) การส่งเสริมให้ชุมชนและสังคมมีส่วนร่วมในการพัฒนาและให้บริการสาธารณสุขมูลฐาน รวมถึงการดำเนินการผ่านโครงการ Village Health Volunteers Program และการฝึกอบรมแรงงานข้ามชาติ ซึ่งมีส่วนช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ อย่างมีประสิทธิผล
(๓) การป้องกันและส่งเสริมวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี ซึ่งเป็นพื้นฐานของระบบ UHC ที่ยั่งยืนรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังกล่าวถึง การจัดตั้งศูนย์อาเซียนด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ (ACPHEED) ในฐานะศูนย์กลางแห่งความเป็นเลิศและศูนย์กลางระดับภูมิภาค เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของภูมิภาคในการป้องกัน เตรียมพร้อม ตรวจหา และตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพที่เกิดใหม่
การประชุมครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการหารือรายหัวข้อ (thematic discussions) ของกลุ่มฯ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องกับ UHC มีส่วนร่วม และเตรียมพร้อมสำหรับกระบวนการต่าง ๆ ที่จะนำไปสู่การประชุมระดับสูงว่าด้วย UHC ในปี ๒๕๖๖ ที่นครนิวยอร์ก
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ