นายกรัฐมนตรีได้กล่าวคำปราศรัยเนื่องในวันสหประชาชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ ๒๔ ตุลาคม ของทุกปีโดยย้ำความสำคัญของสหประชาชาติในฐานะศูนย์กลางของความร่วมมือระหว่างประเทศในการรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ของโลก โดยเฉพาะความท้าทายที่เป็นผลพวงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ ได้แก่ วิกฤติเศรษฐกิจ การขาดแคลนอาหารและพลังงาน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
นายกรัฐมนตรีย้ำด้วยว่า ไทยสนับสนุนระบบพหุภาคี พร้อมร่วมมือกับองค์การสหประชาชาติ องค์การระหว่างประเทศต่าง ๆ และร่วมมือกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเยาวชน เพื่อร่วมกันออกแบบอนาคตที่ดีขึ้น เพื่อให้โลกของเราเป็นโลกที่น่าอยู่สำหรับทุกคน นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้แจ้งว่าไทยได้ประกาศตัวลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ วาระปี ค.ศ. ๒๐๒๕ ? ๒๐๒๗ และได้กล่าวยินดีที่หน่วยงานต่าง ๆ ของสหประชาชาติได้เลือกไทยเป็นที่ตั้ง ซึ่งรวมถึงคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก หรือ เอสแคป ซึ่งปีนี้ เป็นปีครบรอบ ๗๕ ปีของการก่อตั้งเอปแคป
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ