กรุงเทพ--4 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่า สหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 4 เมษายนของทุกปี เป็นวันแห่งการรณรงค์เพื่อกำจัดทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ในการสร้างความเข้าใจและความตื่นตัวเกี่ยวกับปัญหาทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในประชาคมระหว่างประเทศ จึงเป็นโอกาสที่จะสื่อเจตนารมณ์ของไทยในฐานะรัฐสมาชิกสหประชาติและรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลให้ทราบถึงการดำเนินงานด้านทุ่นระเบิดของไทย
ประเทศไทยเป็นภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในวันแรกที่เปิดให้มีการลงนามเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2540 และเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ลงนามในอนุสัญญาดังกล่าว โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ดำเนินการเพื่อให้ไทยปลอดจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคลและไม่มีผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดเพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะในแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ซึ่งมีทุ่นระเบิดหนาแน่นและได้รับผลกระทบจากทุ่นระเบิดมากที่สุด และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดอย่างทั่วถึง ทั้งด้านการแพทย์ การฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ การฝึกและการพัฒนาศักยภาพ การจัดหาอาชีพ เพื่อให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติในสังคม รวมทั้งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดของประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ดี งานเก็บกู้ทุ่นระเบิดเป็นงานที่ใช้งบประมาณและเวลามาก เป็นงานที่มีความเสี่ยง และมีอุปสรรคในด้านพื้นที่ ไทยจึงไม่สามารถดำเนินการได้ทันตามกำหนด คือวันที่ 1 พฤษภาคม 2552 จึงจะขอขยายระยะเวลาดำเนินการออกไปตามแนวทางของอนุสัญญาฯ จากกำหนดเวลาเดิมอีกประมาณ 9 ปี
ในการนี้ กระทรวงการต่างประเทศเชื่อมั่นว่า การดำเนินงานทุ่นระเบิดเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยเจตนารมณ์ทางการเมือง ความร่วมมือและการสนับสนุนทั้งทางงบประมาณและเทคนิคจากทุกฝ่าย ภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม และ NGOs ทั้งจากในประเทศและประชาคมระหว่างประเทศ และขอยืนยันเจตนารมณ์ที่จะมุ่งมั่นให้การดำเนินการด้านทุ่นระเบิดของไทยบรรลุผลสำเร็จตามพันธกรณีของอนุสัญญาฯ เพื่อให้ไทยเป็นประเทศที่ปลอดจากทุ่นระเบิดและไม่มีจำนวนผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดเพิ่มขึ้นต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่า สหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 4 เมษายนของทุกปี เป็นวันแห่งการรณรงค์เพื่อกำจัดทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ในการสร้างความเข้าใจและความตื่นตัวเกี่ยวกับปัญหาทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในประชาคมระหว่างประเทศ จึงเป็นโอกาสที่จะสื่อเจตนารมณ์ของไทยในฐานะรัฐสมาชิกสหประชาติและรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลให้ทราบถึงการดำเนินงานด้านทุ่นระเบิดของไทย
ประเทศไทยเป็นภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในวันแรกที่เปิดให้มีการลงนามเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2540 และเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ลงนามในอนุสัญญาดังกล่าว โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ดำเนินการเพื่อให้ไทยปลอดจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคลและไม่มีผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดเพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะในแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ซึ่งมีทุ่นระเบิดหนาแน่นและได้รับผลกระทบจากทุ่นระเบิดมากที่สุด และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดอย่างทั่วถึง ทั้งด้านการแพทย์ การฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ การฝึกและการพัฒนาศักยภาพ การจัดหาอาชีพ เพื่อให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติในสังคม รวมทั้งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดของประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ดี งานเก็บกู้ทุ่นระเบิดเป็นงานที่ใช้งบประมาณและเวลามาก เป็นงานที่มีความเสี่ยง และมีอุปสรรคในด้านพื้นที่ ไทยจึงไม่สามารถดำเนินการได้ทันตามกำหนด คือวันที่ 1 พฤษภาคม 2552 จึงจะขอขยายระยะเวลาดำเนินการออกไปตามแนวทางของอนุสัญญาฯ จากกำหนดเวลาเดิมอีกประมาณ 9 ปี
ในการนี้ กระทรวงการต่างประเทศเชื่อมั่นว่า การดำเนินงานทุ่นระเบิดเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยเจตนารมณ์ทางการเมือง ความร่วมมือและการสนับสนุนทั้งทางงบประมาณและเทคนิคจากทุกฝ่าย ภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม และ NGOs ทั้งจากในประเทศและประชาคมระหว่างประเทศ และขอยืนยันเจตนารมณ์ที่จะมุ่งมั่นให้การดำเนินการด้านทุ่นระเบิดของไทยบรรลุผลสำเร็จตามพันธกรณีของอนุสัญญาฯ เพื่อให้ไทยเป็นประเทศที่ปลอดจากทุ่นระเบิดและไม่มีจำนวนผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดเพิ่มขึ้นต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-