ผู้แทนพิเศษของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำไทยมุ่งส่งเสริมบทบาทของเยาวชนและสิทธิในการพัฒนาในการประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ ๕๒
เมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ - ๑ มีนาคม ๒๕๖๖ นางพรพิมล กาญจนลักษณ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะผู้แทนพิเศษของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมระดับสูง (high-level segment) ระหว่างการประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Human Rights Council: HRC) สมัยที่ ๕๒ ณ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ โดยได้กล่าวถ้อยแถลงใน ๒ วาระ ได้แก่
๑. การประชุมระดับสูงในประเด็นเยาวชน (Annual high-level panel discussion on human rights mainstreaming) ภายใต้หัวข้อ ?A reflection on five years of the United Nations Youth Strategy (Youth 2030): mapping a blueprint for the next steps?
ไทยได้ย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ Youth 2030 โดยคำนึงถึงผลกระทบของเทคโนโลยีและสื่อสังคมออนไลน์ต่อสังคม รวมทั้งปัญหาทางความคิดและค่านิยมของคนในสังคมปัจจุบัน อาทิ การขาดความเข้าใจและความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงและอนาคตที่ดีสำหรับเยาวชน
๒. การประชุมระดับสูงเรื่องสิทธิในการพัฒนา (High-level meeting commemorating the thirty-fifth anniversary of the Declaration on the Right to Development)
ไทยได้ย้ำว่าการพัฒนากับสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน โดยไทยได้ให้ความสำคัญกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals ? SDGs) มาโดยตลอด และมุ่งบรรลุเป้าหมายดังกล่าวด้วยการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy ? SEP) ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy ? BCG) โดยเฉพาะช่วงการเป็นเจ้าภาพเอเปคในปีที่ผ่านมา นอกจากนั้น ยังให้ความสำคัญกับการร่วมมือกับนานาประเทศเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สันติสุข เนื่องจากการพัฒนาและการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนจะเกิดขึ้นไม่ได้หากปราศจากสันติภาพและความมั่นคง
นอกจากนี้ ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ ยังได้เข้าพบหารือกับนาย Volker T?rk ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนทั่วโลกและในประเทศไทย ความร่วมมือระหว่างไทยกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ฯ รวมทั้งได้ย้ำความมุ่งมั่นของไทยในการสนับสนุนและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมถึงสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และการบังคับใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ