เมื่อวันที่ ๖ - ๗ มีนาคม ๒๕๖๖ นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน (ASEAN Senior Officials? Meeting: ASEAN SOM) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การประชุมคณะทำงานภายใต้คณะมนตรีประสานงานอาเซียนว่าด้วยการสมัครเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเต (ASEAN Coordinating Council Working Group (ACCWG) on Timor-Leste?s ASEAN Membership Application) ครั้งที่ ๑๕ การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนบวกสาม (ASEAN Plus Three Senior Officials? Meeting: APT SOM) และการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน-สหรัฐฯ (ASEAN-U.S. Dialogue) ครั้งที่ ๓๕ ที่สำนักเลขาธิการอาเซียน กรุงจาการ์ตา ? ที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนได้หารือเกี่ยวกับข้อริเริ่มและประเด็นสำคัญภายใต้แนวคิดหลักในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของอินโดนีเซีย ?อาเซียนเป็นศูนย์กลาง สรรค์สร้างความเจริญ? (ASEAN Matters: Epicentrum of Growth) และติดตามผลการหารือจากการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ และการประชุมคณะมนตรีประสานงานอาเซียน ครั้งที่ ๓๒ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ รวมทั้งได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือกับภาคีภายนอก ในโอกาสนี้ ปลัดกต.ได้ย้ำการสนับสนุนของไทยต่อการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนและผลลัพธ์ต่าง ๆ ในปีนี้ของอินโดนีเซีย โดยเฉพาะความพร้อมของไทยในการเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามแดนอันเกิดจากการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด นอกจากนี้ ในฐานะประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น ปลัดกต.ได้รายงานการเตรียมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน-ญี่ปุ่น ที่กรุงโตเกียว และการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น เพื่อฉลองวาระครบรอบ ๕๐ ปี ความสัมพันธ์ฯ ให้ที่ประชุมฯ ทราบ ? ที่ประชุม ACCWG ว่าด้วยการสมัครเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเต ได้หารือแนวทางการเสริมสร้างศักยภาพและความพร้อมของติมอร์-เลสเต ในการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียน รวมถึงการจัดทำแผนงาน (Roadmap) สำหรับการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเต ในโอกาสนี้ ไทยย้ำความมุ่งมั่นในการสนับสนุนโครงการส่งเสริมศักยภาพและการสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยการปฏิบัติตามแผนงานเมื่อได้รับรองแล้ว ?
ในการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนบวกสาม ปลัดกต. ย้ำประเด็นความร่วมมือที่ไทยให้ความสำคัญ ประเด็นด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่ อาทิ ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน ภายใต้อาเซียนบวกสาม ในฐานะกรอบความร่วมมือภูมิภาคหลักในการแก้ไขปัญหาท้าทายร่วมกัน
?ในการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน-สหรัฐ ครั้งที่ ๓๕ ปลัดกต.ได้กล่าวนำการหารือในประเด็นความเข้มแข็งของภูมิภาคด้านสาธารณสุข โดยได้ย้ำการสนับสนุนของไทยต่อการเข้าถึงการรักษาโรคและวัคซีนอย่างถ้วนหน้า รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาเวชภัณฑ์และยารักษาโรคพื้นฐานที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงฯ ยังได้ผลักดันความร่วมมือระหว่างอาเซียนและสหรัฐฯ ผ่านศูนย์อาเซียนด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ (ASEAN Centre for Public Health Emergencies and Emerging Diseases: ACPHEED) ซึ่งสำนักเลขาธิการตั้งอยู่ในประเทศไทย
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ