กรุงเทพ--18 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 9 — 11 เมษายน 2551 นายจริย์วัฒน์ สันตะบุตร รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้นำคณะ Focus Group เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์รายประเทศ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนระดับสูงจากกระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กรมส่งเสริมการส่งออก สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมการจัดหางานไทยไปต่างประเทศ เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาชนอาหรับลิเบีย โดยได้เข้าเยี่ยมคารวะนาย Mohammed Al-Barani รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศลิเบีย เข้าร่วมการประชุมหารือ ทวิภาคีไทย - ลิเบีย เยี่ยมชมงานแสดงสินค้านานาชาติ Tripoli International Trade Fair และโครงการก่อสร้างแม่น้ำเทียม (The Great Man-made River) สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. การเดินทางเยือนลิเบียครั้งนี้ ต่อเนื่องกับการเยือนไทยของ ดร. Gamal Ali Al-Barq อธิบดีกรมความร่วมมือ กระทรวงการต่างประเทศลิเบีย (Director of Cooperation Affairs Department, General People’s Committee for Foreign Liaison and International Cooperation) เมื่อเดือน มีค 2551 และนับเป็นการเยือนลิเบียครั้งแรกของคณะผู้แทนระดับสูงจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนของไทย นับตั้งแต่ทั้งสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อปี 2520 ทั้งนี้ ฝ่ายลิเบียได้ให้การต้อนรับคณะผู้แทนไทยทั้งหมดในฐานะแขกของรัฐบาลลิเบีย
2. คณะผู้แทนไทยและลิเบียได้หารือเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือทวิภาคีในด้านต่างๆ ได้แก่ การค้า การลงทุน ความมั่นคง พลังงาน แรงงาน การศึกษา และวิชาการ โดยฝ่ายไทยเสนอให้ทั้งสองฝ่ายจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมไทย-ลิเบีย (Joint Commission — JC) เพื่อเป็นกลไกในการติดตามผลการดำเนินงานในแต่ละด้าน นอกจากนี้ ยังได้เชิญนาย Moftah Mohamed El-Senousi Kea’ebah ประธานสภาประชาชนลิเบีย (Secretariat of the General People’s Congress) และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของลิเบียเดินทางมาเยือนไทยด้วย
3. การเปิด สอท ณ กรุงตริโปลี ฝ่ายไทยมีกำหนดจะเปิด สอท ณ กรุงตริโปลี ในปลายปี 2551 โดยได้ขอให้ฝ่ายลิเบียสำรองพื้นที่ในอาคาร Al Fattah ซึ่งฝ่ายไทยสนใจใช้เป็นที่ทำการของ สอท ขณะที่ฝ่ายลิเบียมีแผนจะเปิด สอท ลิเบียประจำประเทศไทย ในปี 2552 ด้วย
4. ด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเร่งรัดการจัดทำความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน และความตกลงว่าด้วยการยกเว้นภาษีซ้อน เพื่อเป็นเครื่องมือในการเพิ่มพูนมูลค่าการค้า การลงทุนระหว่างกัน (ปี 2550 การค้าไทย-ลิเบีย มีมูลค่ารวม 279.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) นอกจากนี้ ยังสนใจที่จะจัดให้มีการประชุม/สัมมนาเกี่ยวกับการค้า การลงทุนไทย-ลิเบียในแต่ละประเทศด้วย ในการนี้ คณะผู้แทนไทยได้เข้าร่วมชมงานแสดงสินค้า Tripoli International Trade Fair ซึ่งมีบริษัทเอกชนไทยจำนวน 10 บริษัท ภายใต้การสนับสนุนของกรมส่งเสริมการส่งออกเข้าร่วมงานแสดงสินค้าด้วย
5. ด้านแรงงาน ฝ่ายไทยได้พบหารือกับหน่วยงานภาครัฐของลิเบียซึ่งดูแลกฎระเบียบเกี่ยวกับแรงงานต่างชาติ โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะพิจารณาความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน เพื่อเป็นกรอบการดำเนินการในการส่งคนงานไทยไปทำงานที่ลิเบีย รวมทั้งการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน นอกจากนี้ คณะผู้แทนไทยยังได้พบหารือกับบริษัทจัดหางานเอกชนในลิเบีย ซึ่งแสดงความสนใจที่จะรับแรงงานไทยอีกจำนวนมาก รวมทั้งนักศึกษาไทยมุสลิมที่ศึกษาในประเทศอียิปต์และซูดาน ซึ่งสามารถพูดภาษาอาหรับได้ เข้าทำงานในตำแหน่งหัวหน้างานในโครงการต่างๆ เช่น โครงการก่อสร้างแม่น้ำเทียม (The Great Man-made River — GMR) นอกจากนี้ คณะผู้แทนไทยยังได้เยี่ยมเยียนคนไทยซึ่งทำงานในโครงการก่อสร้างในลิเบียระหว่างการเยือนครั้งนี้ด้วย
6. ด้านการศึกษา ปัจจุบัน ไทยมีนักศึกษาในลิเบียจำนวน 29 คน ซึ่งทั้งหมดศึกษาได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลลิเบียและศึกษาอยู่ที่ Islamic Call College กรุงตริโปลี โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะจัดทำความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษา เพื่อใช้เป็นกรอบความร่วมมือในด้านต่างๆ ระหว่างกัน เช่น การพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน การวิจัย การแลกเปลี่ยนนักศึกษาและบุคลากรทางการศึกษา ในการนี้ ฝ่ายไทยได้ขอรับการสนับสนุนทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนไทยมุสลิมเพื่อศึกษาในสายสามัญและวิชาชีพในลิเบียด้วย
7. ด้านวิชาการ ฝ่ายไทยได้แจ้งว่า ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณาร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการพัฒนาความร่วมมือด้านสาธารณสุขและเห็นชอบตามร่างที่ฝ่ายลิเบียเสนอแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายจะได้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าวในโอกาสต่อไป
8. ด้านพลังงาน ฝ่ายลิเบียยินดีที่จะสนับสนุนการเข้าไปลงทุนและประมูลแปลงสัมปทานน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของบริษัท ปตท สผ จำกัด (มหาชน) และพร้อมที่จะจัดนัดหมายให้คณะผู้แทนของ บริษัท ปตท สผ พบหารือกับหน่วยงานด้านพลังงานของลิเบียที่เกี่ยวข้อง ในช่วงเดือนพฤษภาคม — มิถุนายน 2551 ตามที่ได้ตกลงไว้ระหว่างการเยือนไทยของคณะผู้แทนลิเบีย เมื่อเดือน มีนาคม 2551
9. ด้านความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะจัดให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานด้านความมั่นคงของทั้งสองฝ่าย เพื่อหารือรายละเอียดสาขาความร่วมมือต่างๆ อาทิ การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การแก้ไขปัญหาการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการรักษาความปลอดภัยอุปกรณ์และสิ่งก่อสร้างในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น
อนึ่ง โครงการ Focus Group เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์รายประเทศ/กลุ่มประเทศเป็นโครงการใหม่ในปีนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสานสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือรอบด้านกับประเทศเป้าหมายที่ยังไม่มีสถานเอกอัครราชทูตและหรือสถานกงสุลไทยประจำการในประเทศดังกล่าว โครงการ Focus Group มีแผนงานที่จะเยือนแอลจีเรียและตูนิเซีย ตลอดจนคาซัคสถานและอุซเบกิสถานในช่วงกลางปีนี้
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 9 — 11 เมษายน 2551 นายจริย์วัฒน์ สันตะบุตร รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้นำคณะ Focus Group เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์รายประเทศ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนระดับสูงจากกระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กรมส่งเสริมการส่งออก สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมการจัดหางานไทยไปต่างประเทศ เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาชนอาหรับลิเบีย โดยได้เข้าเยี่ยมคารวะนาย Mohammed Al-Barani รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศลิเบีย เข้าร่วมการประชุมหารือ ทวิภาคีไทย - ลิเบีย เยี่ยมชมงานแสดงสินค้านานาชาติ Tripoli International Trade Fair และโครงการก่อสร้างแม่น้ำเทียม (The Great Man-made River) สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. การเดินทางเยือนลิเบียครั้งนี้ ต่อเนื่องกับการเยือนไทยของ ดร. Gamal Ali Al-Barq อธิบดีกรมความร่วมมือ กระทรวงการต่างประเทศลิเบีย (Director of Cooperation Affairs Department, General People’s Committee for Foreign Liaison and International Cooperation) เมื่อเดือน มีค 2551 และนับเป็นการเยือนลิเบียครั้งแรกของคณะผู้แทนระดับสูงจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนของไทย นับตั้งแต่ทั้งสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อปี 2520 ทั้งนี้ ฝ่ายลิเบียได้ให้การต้อนรับคณะผู้แทนไทยทั้งหมดในฐานะแขกของรัฐบาลลิเบีย
2. คณะผู้แทนไทยและลิเบียได้หารือเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือทวิภาคีในด้านต่างๆ ได้แก่ การค้า การลงทุน ความมั่นคง พลังงาน แรงงาน การศึกษา และวิชาการ โดยฝ่ายไทยเสนอให้ทั้งสองฝ่ายจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมไทย-ลิเบีย (Joint Commission — JC) เพื่อเป็นกลไกในการติดตามผลการดำเนินงานในแต่ละด้าน นอกจากนี้ ยังได้เชิญนาย Moftah Mohamed El-Senousi Kea’ebah ประธานสภาประชาชนลิเบีย (Secretariat of the General People’s Congress) และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของลิเบียเดินทางมาเยือนไทยด้วย
3. การเปิด สอท ณ กรุงตริโปลี ฝ่ายไทยมีกำหนดจะเปิด สอท ณ กรุงตริโปลี ในปลายปี 2551 โดยได้ขอให้ฝ่ายลิเบียสำรองพื้นที่ในอาคาร Al Fattah ซึ่งฝ่ายไทยสนใจใช้เป็นที่ทำการของ สอท ขณะที่ฝ่ายลิเบียมีแผนจะเปิด สอท ลิเบียประจำประเทศไทย ในปี 2552 ด้วย
4. ด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเร่งรัดการจัดทำความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน และความตกลงว่าด้วยการยกเว้นภาษีซ้อน เพื่อเป็นเครื่องมือในการเพิ่มพูนมูลค่าการค้า การลงทุนระหว่างกัน (ปี 2550 การค้าไทย-ลิเบีย มีมูลค่ารวม 279.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) นอกจากนี้ ยังสนใจที่จะจัดให้มีการประชุม/สัมมนาเกี่ยวกับการค้า การลงทุนไทย-ลิเบียในแต่ละประเทศด้วย ในการนี้ คณะผู้แทนไทยได้เข้าร่วมชมงานแสดงสินค้า Tripoli International Trade Fair ซึ่งมีบริษัทเอกชนไทยจำนวน 10 บริษัท ภายใต้การสนับสนุนของกรมส่งเสริมการส่งออกเข้าร่วมงานแสดงสินค้าด้วย
5. ด้านแรงงาน ฝ่ายไทยได้พบหารือกับหน่วยงานภาครัฐของลิเบียซึ่งดูแลกฎระเบียบเกี่ยวกับแรงงานต่างชาติ โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะพิจารณาความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน เพื่อเป็นกรอบการดำเนินการในการส่งคนงานไทยไปทำงานที่ลิเบีย รวมทั้งการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน นอกจากนี้ คณะผู้แทนไทยยังได้พบหารือกับบริษัทจัดหางานเอกชนในลิเบีย ซึ่งแสดงความสนใจที่จะรับแรงงานไทยอีกจำนวนมาก รวมทั้งนักศึกษาไทยมุสลิมที่ศึกษาในประเทศอียิปต์และซูดาน ซึ่งสามารถพูดภาษาอาหรับได้ เข้าทำงานในตำแหน่งหัวหน้างานในโครงการต่างๆ เช่น โครงการก่อสร้างแม่น้ำเทียม (The Great Man-made River — GMR) นอกจากนี้ คณะผู้แทนไทยยังได้เยี่ยมเยียนคนไทยซึ่งทำงานในโครงการก่อสร้างในลิเบียระหว่างการเยือนครั้งนี้ด้วย
6. ด้านการศึกษา ปัจจุบัน ไทยมีนักศึกษาในลิเบียจำนวน 29 คน ซึ่งทั้งหมดศึกษาได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลลิเบียและศึกษาอยู่ที่ Islamic Call College กรุงตริโปลี โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะจัดทำความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษา เพื่อใช้เป็นกรอบความร่วมมือในด้านต่างๆ ระหว่างกัน เช่น การพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน การวิจัย การแลกเปลี่ยนนักศึกษาและบุคลากรทางการศึกษา ในการนี้ ฝ่ายไทยได้ขอรับการสนับสนุนทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนไทยมุสลิมเพื่อศึกษาในสายสามัญและวิชาชีพในลิเบียด้วย
7. ด้านวิชาการ ฝ่ายไทยได้แจ้งว่า ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณาร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการพัฒนาความร่วมมือด้านสาธารณสุขและเห็นชอบตามร่างที่ฝ่ายลิเบียเสนอแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายจะได้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าวในโอกาสต่อไป
8. ด้านพลังงาน ฝ่ายลิเบียยินดีที่จะสนับสนุนการเข้าไปลงทุนและประมูลแปลงสัมปทานน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของบริษัท ปตท สผ จำกัด (มหาชน) และพร้อมที่จะจัดนัดหมายให้คณะผู้แทนของ บริษัท ปตท สผ พบหารือกับหน่วยงานด้านพลังงานของลิเบียที่เกี่ยวข้อง ในช่วงเดือนพฤษภาคม — มิถุนายน 2551 ตามที่ได้ตกลงไว้ระหว่างการเยือนไทยของคณะผู้แทนลิเบีย เมื่อเดือน มีนาคม 2551
9. ด้านความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะจัดให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานด้านความมั่นคงของทั้งสองฝ่าย เพื่อหารือรายละเอียดสาขาความร่วมมือต่างๆ อาทิ การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การแก้ไขปัญหาการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการรักษาความปลอดภัยอุปกรณ์และสิ่งก่อสร้างในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น
อนึ่ง โครงการ Focus Group เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์รายประเทศ/กลุ่มประเทศเป็นโครงการใหม่ในปีนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสานสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือรอบด้านกับประเทศเป้าหมายที่ยังไม่มีสถานเอกอัครราชทูตและหรือสถานกงสุลไทยประจำการในประเทศดังกล่าว โครงการ Focus Group มีแผนงานที่จะเยือนแอลจีเรียและตูนิเซีย ตลอดจนคาซัคสถานและอุซเบกิสถานในช่วงกลางปีนี้
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-