เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๖ นางสาวบุษฎี สันติพิทักษ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พบหารือ Ms. Agn?s Callamard เลขาธิการ Amnesty International (AI) เนื่องในโอกาสเดินทางมาประเทศไทย
เลขาธิการ AI ได้มอบรายงานประจำปีเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนทั่วโลกประจำปี ค.ศ. ๒๐๒๒ - ๒๐๒๓ ให้แก่รองปลัดกระทรวงฯ รวมทั้งให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการของ AI ในประเทศไทย และแลกเปลี่ยนมุมมองด้านสิทธิมนุษยชน รวมถึงการจัดกิจกรรม ?เลือกตั้ง ๖๖: วาทะผู้นำ วาระสิทธิมนุษยชน? ซึ่งสำนักงาน AI ประเทศไทย ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๖๖ โดยมีเลขาธิการ AI เข้าร่วมด้วย กิจกรรมดังกล่าวมีผู้แทนจากพรรคการเมือง ๑๒ พรรคเข้าร่วมอภิปราย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงว่าบรรยากาศการรณรงค์หาเสียงมีความครึกครื้นและประเทศไทยให้ความสำคัญกับวาระด้านสิทธิมนุษยชน การส่งเสริมประชาธิปไตย และเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง โดยทั้งสองฝ่ายได้กล่าวถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเมือง และนโยบายของพรรคการเมืองต่าง ๆ รวมทั้งการมีส่วนร่วมของเยาวชน ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีเยาวชนที่มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกเป็นจำนวนมาก
ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในภูมิภาค และพัฒนาการด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย อาทิ การมีผลใช้บังคับของ พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมาน พ.ศ. ๒๕๖๕ การใช้สิทธิในเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมโดยสันติของเยาวชน รวมถึงแนวทางความร่วมมือระหว่าง AI กับกระทรวงการต่างประเทศ และส่วนราชการอื่น เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยรองปลัดกระทรวงฯ ได้เน้นย้ำถึงการดำเนินการของภาครัฐในการมีปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์กับภาคประชาสังคม รวมถึงผ่านกระบวนการ Universal Periodic Review (UPR) ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๖ กรมองค์การระหว่างประเทศ ได้ร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจัดการหารือเพื่อรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของภาคประชาสังคมเกี่ยวกับการดำเนินการตามข้อเสนอแนะที่ไทยตอบรับและคำมั่นโดยสมัครใจของไทยในกรอบ UPR รอบที่ ๓ ซึ่งมีผู้แทน AI เข้าร่วมด้วย
อนึ่ง Amnesty International ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๐๔ มีสำนักงานใหญ่ ณ กรุงลอนดอน ปัจจุบัน มีนักรณรงค์และนักเคลื่อนไหวสังคมกว่า ๑๐ ล้านคนทั่วโลกที่ให้การสนับสนุน มีสำนักงานในประเทศไทย ดังนี้ (๑) สมาคมแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ปทท. (AI ปทท.) และ (๒) สำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก (สนง. ภูมิภาคฯ)
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ