กรุงเทพ--25 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2551 ที่กรุงอักรา สาธารณรัฐกานา นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับรายงานข่าวคำสัมภาษณ์ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ซึ่งระบุว่า ในการพิจารณาแก้ไขข้อห่วงใยเกี่ยวกับราคาพลังงานและสินค้าอาหารที่สูงขึ้น สหประชาชาติ ธนาคารโลก และองค์การระหว่างประเทศอื่นๆ ไม่ควรเพ่งเล็งเพียงประเทศผู้ผลิตอาหารและเรื่องการปลูกพืชพลังงาน แต่ควรพิจารณาสถานะตลาดพลังงานของโลกด้วย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ความมั่นคงทางพลังงานและอาหารเป็นประเด็นสำคัญที่ไทยและสหประชาชาติมีมุมมองที่ใกล้เคียงกัน ไม่ได้มีความขัดแย้งดังตามรายงานข่าวทั้งสองฝ่ายต่างประสงค์ให้มีแนวทางออกอย่างยั่งยืนต่อปัญหาราคาพลังงานและอาหารที่ถีบตัวสูงขึ้น โดยควรเป็นแนวทางที่ครอบคลุมปัจจัยและผู้เกี่ยวข้องต่างๆ อย่างครบถ้วน ข้อคิดเห็นของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี มีวัตถุประสงค์เพื่อตอกย้ำความจำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องมีความเข้าใจที่ตรงกัน และร่วมมือกันแก้ไขปัญหา ในการนี้ ไทยขอยืนยันความพร้อมที่จะร่วมมือกับสหประชาชาติ และได้ย้ำจุดยืนดังกล่าวในการหารือระหว่างคณะทูตถาวรไทย ณ นครนิวยอร์กและสำนักงานเลขาธิการสหประชาชาติเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งในโอกาสดังกล่าวสำนักงานเลขาธิการสหประชาชาติได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับมุมมองของเลขาธิการสหประชาชาติต่อเรื่องดังกล่าวด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2551 ที่กรุงอักรา สาธารณรัฐกานา นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับรายงานข่าวคำสัมภาษณ์ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ซึ่งระบุว่า ในการพิจารณาแก้ไขข้อห่วงใยเกี่ยวกับราคาพลังงานและสินค้าอาหารที่สูงขึ้น สหประชาชาติ ธนาคารโลก และองค์การระหว่างประเทศอื่นๆ ไม่ควรเพ่งเล็งเพียงประเทศผู้ผลิตอาหารและเรื่องการปลูกพืชพลังงาน แต่ควรพิจารณาสถานะตลาดพลังงานของโลกด้วย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ความมั่นคงทางพลังงานและอาหารเป็นประเด็นสำคัญที่ไทยและสหประชาชาติมีมุมมองที่ใกล้เคียงกัน ไม่ได้มีความขัดแย้งดังตามรายงานข่าวทั้งสองฝ่ายต่างประสงค์ให้มีแนวทางออกอย่างยั่งยืนต่อปัญหาราคาพลังงานและอาหารที่ถีบตัวสูงขึ้น โดยควรเป็นแนวทางที่ครอบคลุมปัจจัยและผู้เกี่ยวข้องต่างๆ อย่างครบถ้วน ข้อคิดเห็นของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี มีวัตถุประสงค์เพื่อตอกย้ำความจำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องมีความเข้าใจที่ตรงกัน และร่วมมือกันแก้ไขปัญหา ในการนี้ ไทยขอยืนยันความพร้อมที่จะร่วมมือกับสหประชาชาติ และได้ย้ำจุดยืนดังกล่าวในการหารือระหว่างคณะทูตถาวรไทย ณ นครนิวยอร์กและสำนักงานเลขาธิการสหประชาชาติเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งในโอกาสดังกล่าวสำนักงานเลขาธิการสหประชาชาติได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับมุมมองของเลขาธิการสหประชาชาติต่อเรื่องดังกล่าวด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-