เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๖ นางอุรีรัชต์ เจริญโต อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้เข้าร่วมอภิปรายในฐานะผู้แทนจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในหัวข้อ ?Accelerating the Recovery form the Coronavirus Disease (COVID-19) Pandemic and the Implementation of the 2030 Agenda for Sustainable Development through South-South and Triangular Cooperation? ซึ่งเป็นหนึ่งในวาระของการประชุม High-level Committee on South-South Cooperation สมัยที่ ๒๑ โดยอธิบดีกรมความร่วมมือฯ ได้กล่าวว่าการฟื้นตัวจากการระบาดของโรคโควิด-๑๙ อย่างยั่งยืนจะต้องคำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ในส่วนของไทย แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ ๑๓ มีเป้าหมายที่จะพัฒนาประเทศโดยคำนึงถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รัฐบาลจึงใช้นโยบาย BCG Economy Model และ SEP for SDG สำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในส่วนของความร่วมมือกับต่างประเทศ ไทยเน้นความมั่นคงของมนุษย์ในด้าน อาหาร สาธารณสุข อาชีพ พลังงานและสิ่งแวดล้อม โดยการสร้างหุ้นส่วนกับประเทศต่าง ๆ และองค์การระหว่างประเทศ รวมถึงหน่วยงานของสหประชาชาติ โดยได้ยกตัวอย่าง ความร่วมมือกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งเยอรมันในโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดภาวะโลกร้อนจากากรทำนาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และโครงการเพิ่มศักยภาพของชุมชนเกษตรในพื้นที่นำร่องของกัมพูชาในการผลิตทางการเกษตรที่ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศซึ่งได้รับการยอมรับจากสำนักงานความร่วมมือใต้-ใต้แห่งสหประชาชาติ และการร่วมมือกับกองทุน Perez-Guerrero Trust Fund for South-South Cooperation จัดฝึกอบรมหัวข้อ Adapting to Climate Change โดยมีผู้เข้าร่วมจากหลากหลายประเทศ
อธิบดีกรมความร่วมมือฯ ยังได้กล่าวถึงบทบาทของไทยในฐานะผู้ประสานงานด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของอาเซียน เพื่อผลักดันข้อริเริ่มความเกื้อกูลระหว่างวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. ๒๐๒๕ และวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. ๒๐๓๐ ของสหประชาชาติ (Complementarities Initiative) ผ่านการดำเนินโครงการและกิจกรรมที่เป็นรูปธรรมที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ