เมื่อวันที่ ๑๒ ? ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๖ นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ได้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุม BIMSTEC Business Conclave 2023 จัดโดยหอการค้าอินเดีย (Indian Chamber of Commerce ? ICC) โดยการสนับสนุนของกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในกรอบความร่วมมือ ความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ (Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation: BIMSTEC)
ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ได้กล่าวถ้อยแถลงในพิธีเปิดการประชุมฯ เน้นย้ำบทบาทของไทย ในฐานะประเทศนำสาขาความเชื่อมโยงและประธานบิมสเทค ในการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจในกรอบบิมสเทค ผ่านการปฏิบัติตามแผนแม่บทว่าด้วยการคมนาคมของบิมสเทค และการสรุปความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการขนส่งทางทะเล โดยกรอบความร่วมมือทั้งสองฉบับนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะจะช่วยเชื่อมโยงรัฐสมาชิกบิมสเทคเข้าหากันแบบไร้รอยต่อ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการค้าและการลงทุนระหว่างกัน และจะช่วยให้เศรษฐกิจของภูมิภาคขยายตัวได้อย่างรวดเร็วในอนาคต
ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ได้กล่าวเสริมเกี่ยวกับข้อเสนอของฝ่ายไทยในการจัดตั้งสภาที่ปรึกษาธุรกิจบิมสเทคเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในกรอบบิมสเทค โดยสภาฯ จะเป็นเวทีให้กับผู้แทนจากภาคเอกชนบิมสเทคได้มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในกระบวนการทำงานของบิมสเทค และทำให้มั่นใจได้ว่าบิมสเทคนั้นตอบสนองต่อความต้องการที่แท้จริงของภาคเอกชน
นอกจากนี้ ยังมีคณะผู้แทนไทยจากภาครัฐและเอกชนอีกจำนวนมากที่ได้เข้าร่วมการประชุมฯ ในครั้งนี้ อาทิ เอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ กงสุลใหญ่ ณ กรุงกัลกัตตา สำนักงานส่งเสริมการค้าต่างประเทศ ณ กรุงนิวเดลี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาธุรกิจไทย - อินเดีย สมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย โดยได้ร่วมบรรยายในหัวข้อต่าง ๆ เกี่ยวกับความร่วมมือในภูมิภาคบิมสเทค อาทิ ความร่วมมือด้านการสาธารณสุข ด้านสตาร์ทอัพ ด้านการศึกษา ด้านอุตสาหกรรมเพชรและอัญมณี ด้านอุตสาหกรรมการแปรรูปสินค้าเกษตรและอาหาร เป็นต้น อีกทั้งยังมีภาคเอกชนไทยเข้าร่วมออกบูธจำหน่ายสินค้า ตามคำเชิญของสถานเอกอัครราชทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่ฯ อีกรวมทั้งสิ้น ๗ ราย
อนึ่ง งาน BIMSTEC Business Conclave 2023 จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อสร้างเครือข่ายให้ภาคเอกชน-ภาคธุรกิจของบิมสเทค เนื่องจากเห็นว่าจะเป็นส่วนส่งเสริมให้บิมสเทคมีพลังและมีพลวัตมากขึ้นในภาพรวม โดยนอกเหนือจากไทย มีรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ระดับสูง และภาคเอกชนจากรัฐสมาชิกบิมสเทคเข้าร่วมเพื่อหารือโอกาสทางธุรกิจของในบิมสเทคและประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมบังกลาเทศและศรีลังกา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พาณิชย์ และการจัดหาสินค้าแห่งเนปาล เป็นต้น
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ