เมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๖ นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นเจ้าภาพการประชุม Political Consultations ไทย - สิงคโปร์ ครั้งที่ ๓ ร่วมกับนายอัลเบิร์ต ฉั่ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ ที่โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ เพื่อหารือเกี่ยวกับการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือทวิภาคีระหว่างไทยกับสิงคโปร์ให้แน่นแฟ้นและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกมากยิ่งขึ้น
ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะประสานงานกันอย่างใกล้ชิดเพื่อสนับสนุนการพบปะและการแลกเปลี่ยน การเยือนระดับสูงระหว่างกันให้เพิ่มมากขึ้นในอนาคต รวมถึงการจัดการประชุมโครงการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานราชการไทย - สิงคโปร์ (Civil Service Exchange Programme: CSEP) ครั้งที่ ๑๔ ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ และเห็นพ้องที่จะขับเคลื่อนประเด็นความร่วมมือทวิภาคีอย่างรอบด้าน ได้แก่ (๑) การกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคง ซึ่งรวมถึงการหารือระดับสูงระหว่างกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่าย การแลกเปลี่ยนบุคลากรในทุกระดับ ความร่วมมือด้านข่าวกรอง และความมั่นคงทางไซเบอร์ (๒) การขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยส่งเสริมการบูรณาการห่วงโซ่อุปทานระหว่างไทยกับสิงคโปร์ในด้านความมั่นคงทางอาหาร ความมั่นคงทางพลังงาน และการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านการค้า การลงทุน และการวิจัยและพัฒนาร่วมกัน (๓) การผลักดันความร่วมมือด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อรองรับโลกแห่งอนาคต โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล และ (๔) การเตรียมความพร้อมระบบดิจิทัลภายในประเทศเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลและเศรษฐกิจดิจิทัลของโลก
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ความท้าทายต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันใกล้ชิดยิ่งขึ้นในการขับเคลื่อนและสร้างความเข้มแข็งให้กับอาเซียน ทั้งในด้านการส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคง และการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ท่ามกลางความท้าทายทางการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศในปัจจุบัน
การหารือระหว่างทั้งสองประเทศในครั้งนี้มีส่วนสำคัญในการเตรียมความพร้อมประเทศไทย ทั้งในด้านความมั่นคง ทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาระบบนิเวศทางดิจิทัล และการประสานห่วงโซ่ทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ เพื่อให้ภาคธุรกิจและประชาชนไทยมีความพร้อมและได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนผ่านด้านดิจิทัลและระบบเศรษฐกิจการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงไปในอนาคตได้อย่างเต็มที่
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ