เมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๖ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสุดยอดด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Ambition Summit) ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ในห้วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ ๗๘
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลง แสดงความมุ่งมั่นของไทยที่จะดำเนินการร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับผู้มีส่วนได้เสียและประชาคมระหว่างประเทศ โดยไทยได้ดำเนินการตามคำมั่นที่ได้ประกาศในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ ๒๖ (UNFCC COP26) อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการปรับปรุงแผนพลังงานแห่งชาติ เน้นการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทน การเตรียมการยกเลิกการผลิตพลังงานโดยใช้เชื้อเพลิงถ่านหิน การปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่ง การเพิ่มสัดส่วนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการสนับสนุนการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา การกำหนดโครงสร้างราคาไฟฟ้าสีเขียว รวมถึงการปรับตัวไปสู่การเกษตรยั่งยืน และการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ทั้งนี้ ยังผลักดันกลไกการเงินสีเขียวผ่านการออกพันธบัตรเพื่อความยั่งยืน และพัฒนา Sustainabilty-linked Bond ตลอดจนออกพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อกำกับดูแลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคบังคับ ซึ่งจะสนับสนุนการดำเนินการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อประชาชน
อนึ่ง การประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศจัดโดยเลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อให้ผู้นำรัฐบาล ภาคเอกชน ภาคการเงิน และภาคประชาสังคม นำเสนอการดำเนินการที่ทะเยอทะยานและเป็นรูปธรรมเพื่อบรรลุการควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิไม่ให้เกิน ๑.๕ องศาเซลเซียส ตามข้อตกลงปารีส และนำมาซึ่งความเป็นธรรมด้านภูมิอากาศ (Climate Justice) การเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวของไทย สะท้อนความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในความร่วมมือกับนานาประเทศเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจัง
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ